16 มิถุนายน 2024, 04:45:27 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เว็บบอร์ด   ช่วยเหลือ ซื้อขายสินค้า Shop เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ:  ทำไม1วัน ต้องมี24ชั่วโมง  (อ่าน 4395 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
^SuRaYoOt^
Global Moderator
**


สูงต่ำอยู่ที่เราทำตัว ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
ID number: 6
กระทู้: 14423
$3658.87 credits

View Inventory
Send Money to ^SuRaYoOt^

Referrals: 0
คำขอบคุณ
-ได้ให้: 1788
-ได้รับ: 69260



พลังชีวิต
0%


« เมื่อ: 13 ตุลาคม 2009, 19:09:05 »


7ปฏิทินเกิดขึ้นมาจากการที่นักวิทยาศาสตร์สังเกต และบันทึกการเปลี่ยนแปลง การขึ้น-ลงของดวงจันทร์ ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการผ่านพ้นไปในแต่ละวัน และกลายเป็นเดือน เป็นปี ปฏิทินในยุคแรก ใน 1 เดือน จะมี 29-30 วัน และในช่วง 1 เดือนนั้น ดวงจันทร์มีการเปลี่ยนแปลงจากข้างขึ้นไปเป็นข้างแรม 1 รอบ เมื่อการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดครบ 12 รอบ จึงเกิดเป็น 12 เดือนใน 1 ปี แต่ในช่วง 1 ปีของปฏิทินที่เทียบจากการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์จะสั้นกว่าที่เป็นจริง ชาวอียิปต์จึงสร้างปฏิทินขึ้นใหม่โดยอาศัยการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์แทน ซึ่งจะได้ปฏิทินใหม่ที่มี 30-31 วัน ใน 1 เดือน และมี 365 วัน หรือ 12 เดือนใน 1 ปี

เมื่อมนุษย์เริ่มมีวิวัฒนาการมากขึ้น มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ต่างๆ มนุษย์จึงเริ่มมีการทำกิจกรรมมากขึ้นในแต่ละวัน สิ่งที่ตามมาก็คือความต้องการในการกำหนดเวลา เพื่อให้มีบทบาทในการกำหนดขอบเขตในการทำกิจกรรมของมนุษย์ในเรื่องต่างๆ เช่น การศึกษา การทำงาน การเล่นกีฬา เป็นต้น มนุษย์ใช้การสังเกตเงาจากดวงอาทิตย์ที่ทาบลงวัตถุบนพื้นโลกใน 1 วัน จึงเกิดการนับช่วงเวลาเป็น ชั่วโมง นาที และวินาทีขึ้น

แล้วทำไมถึงต้องมีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ เป็นวันพิเศษอีก 1 วัน ซึ่งจะเวียนมาในทุกๆ 4 ปี ทำให้ในปีนั้นมี 366 วันเกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าจริงๆ แล้วโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบใช้เวลา 365 วันกับอีก 5 ชั่วโมง 48 นาที และ 45 วินาที เมื่อนำเวลาที่เกินมาในแต่ละปีนั้นมารวมเข้าด้วยกันในทุกรอบ 4 ปี ก็จะได้วันเพิ่มขึ้นมาอีก 1 วัน จึงเกิดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ขึ้น การกำหนดให้ในช่วงรอบ 4 ปี โดยที่ 3 ปีมี 365 วัน และอีก 1 ปีมี 366 วัน ทำให้ปฏิทินที่ได้มีความถูกต้องแม่นยำขึ้น

1 วัน มีกี่ชั่วโมงนั้นก็เพราะกำหนดจากระยะเวลาการหมุนของโลกรอบตัวเอง ส่วนหนึ่งปีมีกี่วันนั้นก็คิดมาจากระยะเวลาที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ แต่ใครเป็นผู้กำหนดวันเวลานั้นไม่สามารถระบุชี้ชัดลงไปได้ ทั้งนี้ เพราะเวลานั้นเกิดจากการพัฒนาและเรียนรู้ของมนุษย์มานานหลายพันปี



มนุษย์สมัยโบราณเรียนรู้และกำหนดเวลาจากวงรอบทางดาราศาสตร์ โดย "วัน" มาจากการหมุนของโลกรอบแกนใน 24 ชั่วโมง (ปัจจุบันโลกหมุนรอบตัวเองใช้เวลา 23.56. 1 ชั่วโมง) "เดือน" มาจากการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์รอบโลก ซึ่งเมื่อนับวันเทียบกับการโคจรของดวงอาทิตย์ก็พบว่าจันทร์เต็มดวงจะเวียนมาครบรอบใหม่ทุกๆ 29 .5 วัน ส่วนปีก็คือเวลาที่โลกใช้โคจรรอบดวงอาทิตย์ (365.242199 วัน)

 
 
ที่มา เว็บไซต์ icphysics.com
 
 
บันทึกการเข้า

ไม่รับตอบปัญหาทาง PM  ไม่ต้องขอโปรแกรมทุกชนิดทาง PM

 
kobchai
S8 member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
รางวัล:
x1x1lt s8...
ID number: 12
กระทู้: 149
$190.11 credits

View Inventory
Send Money to kobchai

Referrals: 0
คำขอบคุณ
-ได้ให้: 156
-ได้รับ: 138



พลังชีวิต
0%


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2009, 09:30:57 »



แล้วทำไมเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีแค่ 28 หรือ 29 วันล่ะ ทำไมไม่เฉลี่ยๆ ตัดเดือนที่มี 31 วันแบ่งมาให้มั่ง จะได้ 30 หรือ 31 วันเท่าๆ กันทุกเดือน
อาจจะให้เดือนกุมภาฯ มี 30 วัน พอครบ 4 ปีก็ให้มี 31 วันซักปีนึง  >:(
บันทึกการเข้า
kobchai
S8 member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
รางวัล:
x1x1lt s8...
ID number: 12
กระทู้: 149
$190.11 credits

View Inventory
Send Money to kobchai

Referrals: 0
คำขอบคุณ
-ได้ให้: 156
-ได้รับ: 138



พลังชีวิต
0%


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2009, 09:33:34 »

ชั่วโมงนี้มีคำตอบ ขอก๊อปคนอื่นมานะครับ

เข้าเรื่องเลยนะครับ เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมเดือนกุมภาพันธ์ถึงมี 29 วัน ถ้าเกิดสงสัยวันนี้ผมมีคำตอบมาบอกครับ แต่มันอาจจะไม่ได้ถูกต้องมากนักนะครับ เพราะผมหาบทความหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ในชนิดที่น้อยมากๆ แทบจะหาไม่ได้เลยดีกว่า

     คำว่ากุมภาพันธ์นั้น ในภาษาอังกฤษมีชื่อว่า February ซึ่งเป็นชื่อเทพเจ้าองค์หนึ่งของชาวอิตาเลียนโบราณครับ เล่ากันว่าเทพเจ้าองค์นี้มีพระนามว่า “Februus” หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “Februa” เทพองค์นี้เป็นตัวแห่งความตายและความบริสุทธิ์ ว่ากันว่าเทพองค์นี้ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองด้วยครับ จึงไม่แปลกใจเลยที่เดือนนี้จะเป็นเดือนที่มีการจัดเทศการเฉลิมฉลองกรุงโรม แล้วก็แต่เดิมนั้นปฏิทินโรมันจะมีเพียงแค่ 10 เดือน (304 วัน) โดยจะนับเอาเดือนมีนาคมเป็นเริ่มต้นปีใหม่ครับ (ไม่มีเดือนในช่วงฤดูหนาวนะครับ) ใน 10 เดือนที่ว่านี้ได้แก่เดือน Martius, Aprilis, Maius, Junius, Quintilis, Sextilis, September, October, November และ December ปฏิทินนี้เป็นที่รู้จักและใช้ต่อกันเรื่อยมาจนถึงประมาณ 738 ปีก่อนคริสตกาลครับ

     จากนั้นเดือน January และ February ก็ได้ถูกทำการเพิ่มขึ้นโดยกษัตริย์โรมันนามว่า Numa ครับ เพื่อให้จำนวนวันที่หายไปนั้นได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ตรงนี้เองครับที่ทำให้เดือน October กระเด็นไปอยู่เดือนที่สิบ (อันที่จริงแล้ว Oct แปลว่าแปดนะครับ)

     ต่อมาก็คือเรื่องของปฏิทินจูเลียตที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ได้ถูกสร้างขึ้น โดย Julius Caesar ซึ่งเป็นผู้นำคนใหม่ของโรมันครับ ผู้นำโรมันคนนี้ได้เล็งเห็นถึงความผิดปกติและความไม่ถูกต้องของปฏิทินจึงได้ ทำการสั่งให้เลิกทำการคำนวณเดือนจากการนับดวงจันทร์เหมือนที่เคยใช้กันมา แต่เดิมนั้นใช้ระบบดวงจันทร์ คืออาศัยข้างขึ้น ข้างแรมสังเกตความเปลี่ยนแปลงของดวงจันทร์ พอหมดข้างแรมทีนึงก็นับเป็นหนึ่งเดือนพร้อมกับได้เปลี่ยนไปใช้วันที่ 1 ของเดือน January เป็นวันแรกของปี อีกทั้งผู้นำโรมันคนนี้ยังได้ทำการเปลี่ยนชื่อเดือน Quintilis เป็น July ซึ่งมาจากคำว่า Julius Caesar เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ตัวเอง และนอกจากนี้ปฏิทินจูเลียตยังได้กำหนดเอาไว้อีกว่าให้เดือนคี่มี 31 วัน เดือนคู่มี 30 วัน ยกเว้นเดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันในปีปกติสุรทิน และมี 30 วันในปีอธิกสุรทิน (คำว่า ปีปกติสุนทิน หมายความว่าเป็นปีปฏิทินที่มีจำนวนวัน 365 วัน และ ปีอธิกสุรทิน หมายความว่าเป็นปีปฏิทินที่มีจำนวนวัน 366 วันครับ)

     ต่อมาในยุคสมัยของกษัตริย์ Augustus Caesar ไม่พอใจที่เดือนเกิดของตนเองซึ่งเป็นเดือน 8 เป็นเดือนคู่แต่มีเพียงแค่ 30 วัน จึงได้ทำการดึงวันออกจากเดือน February ออกมา 1 วัน แล้วนำมาใส่ในเดือนเกิดของตนเอง และได้ทำการเปลี่ยนชื่อเดือนเกิดของตนเองเจาก Sextilis เป็น August จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเดือน August ถึงมี 31 วัน และทำไมเดือน February จึงเหลือ 28 หรือ 29 วันนั่นเองครับ

     ท่านผู้อ่านครับ ประเทศไทยของเรานั้นเริ่มใช้ชื่อเดือนกุมภาพันธ์ในปี พ.ศ. 2432 ซึ่งตรงกับรัชกาลที่ 5 โดนที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทววงศ์วโรปการ เป็นผู้เสนอให้ใช้จักรราศีเป็นตัวกำหนดชื่อเดือน

     เดือนทั้ง 12 นั้นจะประกอบไปด้วย
          January 31 วัน
          February 28 วัน
          March 31 วัน
          April 30 วัน
          May 31 วัน
          June 30 วัน
          July 31 วัน
          August 31 วัน
          September 30 วัน
          October 31 วัน
          November 30 วัน
          December 31 วัน
     รวม 12 เดือน 365 วัน

     แต่ท่านผู้อ่านครับ ระยะเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบนั้นเท่ากับ 365.24224 วัน ครับ ถ้า
ในปีไหนที่เดือน February มี 28 วันแล้วล่ะก็ ปีนั้นจะมีจำนวนวัน 365 วัน ซึ่งจะขาดไป 0.24224 วัน
ในปีไหนที่เดือน February มี 29 วันแล้วล่ะก็ ปีนั้นจะมีจำนวนวัน 366 วัน ซึ่งจะเกินไป 0.24224 วัน
ดังนั้นเพื่อที่จะให้ง่ายต่อการเพิ่มหรือว่าลดระยะเวลาที่ขาดหายหรือมากเกิน ไปนั้น จึงได้มีการกำหนดให้ปีที่มี 365 วัน ซึ่งจะขาดไป 0.24224 วัน นำไปทดไว้จนครบ 4 ปีก็จะได้วันเพิ่มมาอีก 1 วันนั่นเองครับ ส่วนการคำนวณหาว่าปีไหนจะเป็นปีที่มีเดือน February 29 วัน ก็ให้นำปี ค.ศ. มาตั้งแล้วหารด้วย 4 ถ้าเกิดว่าหารลงตัวไม่มีเศษแล้วล่ะก็ปีนั้นจะเป็นปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันครับ


ที่มา http://zalad...080813/entry
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP

Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
SimplePortal 2.3.5 © 2008-2012, SimplePortal | Thai language by ThaiSMF

SMFAds for Free Forums
© Copyrights 2010 navthai.com mod by trex_ln
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.059 วินาที กับ 39 คำสั่ง