ท่องเที่ยวดูปลาโลมาแม่น้ำบางประกง

นักท่องเที่ยวที่สนใจจะชมปลาโลมาอย่างใกล้ชิดสามารถชมได้ที่บริเวณตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง ปลาโลมาจากอ่าวไทยจะตามแหล่งอาหารเข้ามาหากิน เนื่องจากในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี บริเวณนี้จะมีปลาดุกทะเลซึ่งเป็นอาหารโปรดของปลาโลมาเป็นจำนวนมาก ปลาโลมาจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงประมาณ 40-50 ตัว และกระโดดขึ้นมาหายใจเหนือผิวน้ำพร้อมๆกัน ครั้งละประมาณ 3-4 ตัว พันธุ์ที่พบมากคือ ปลาโลมาอิรวดี (หัวบาตรหลังมีครีบ) โลมาหลังโหนก โลมาปากขวด รวมทั้งปลาโลมาเผือกที่มีความสวยงาม

นอกจากนี้ในเส้นทางล่องเรือยังผ่านป่าชายเลนซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์และนกนานาชนิด อาทิ นกกาน้ำ นกแสก นกกระยาง นกนางนวล นกกระเต็น ค้างคาวแม่ไก่และลิงแสม เป็นต้น และผ่านเกาะท่าข้ามใกล้กับหมู่ที่ 1 ที่ปลาโลมาเข้ามาหาเหยื่อซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 125 ไร่ จุดลงเรือมี 2 แห่งคือ ท่าเรือหมู่ 1 บ้านท่าแหลม และท่าเรือหมู่ 8 บ้านคลองตำหรุ ใช้เวลาล่องเรือ1-2 ชั่วโมง เรือมีหลายขนาด ค่าโดยสาร แบบเหมาลำ ราคา 600-1200 บาทและแบบนั่งรวม ไม่เกิน15 คน ราคาคนละ 180 บาท ควรไปชมช่วงเช้าก่อนเที่ยงหรือช่วงเย็น

ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ สำนักงานเทศบาลตำบลท่าข้าม โทร. 0 3857 3411-8 0 3857 3411-2 ต่อ 19

หรือติดต่อเรือประมงขวัญตา 086-8480720

การเดินทาง

1.ใช้เส้นทางถนนบางนา – ตราด (กรุงเทพฯ – ชลบุรี) ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง กลับรถที่ กม. 53
(จุดกลับรถที่ 2 หลังจากข้ามสะพาน) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางคู่ขนาน สามารถเข้าท่าเรือได้ตามถนนเข้าศูนย์ฝึกอบรม กฟผ. และถนนสุขุมวิท
2. เส้นทางถนนสุวินทวงศ์ จากกรุงเทพ ฯ มาจังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนเข้าตัวเมืองเลี้ยวขวาตามถนนฉะเชิงเทรา – บางปะกง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางที่ 1 ที่สะพานคลองอ้อม

สำหรับการเดินทางมาที่เทศบาลท่าข้าม เพื่อมาชมปลาโลมา ก็ไม่ยาก เมื่อเพื่อนๆมาถึงปากทางเข้าถนนเทศบาลท่าข้ามแล้ว ก็ให้ขับรถตรงมาตามป้ายบอกทางไปท่าเรือเทศบาลท่าข้าม ซึ่งจะมีป้ายบอกตลอดทาง

เมื่อมาถึงแล้วจะพบกับป้ายสุดท้ายที่อยุสุดทาง ตามภาพ

มีที่จอดรถให้นักท่องเที่ยวอย่างดี

ถัดมานิดนึงจะเป็นร้านอาหาร ปากอ่าวบางปะกงซีฟู้ด

สามารถแวะทานอาหารทะเลสดๆ ได้ที่นี่ ลองชิมมาแล้ว รสชาดอาหารใช้ได้เลย กุ้ง ปลาหมึกตัวโตดี และที่ร้านอาหารก็มีป้ายบอกราคาค่าเรือเพื่อไปชมปลาโลมาไว้ด้วย แต่ต้องไปติดต่อที่เทศบาล ที่ร้านไม่ได้รับจองเรือ

เมื่ออิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็เดินออกมาจองเรือเพื่อไปชมปลาโลมากัน

แต่ที่นี่ไม่ได้มีหน่วยงานหรือกลุ่มองค์กรของ เทศบาลมาเปิดโต๊ะเพื่อรับจองหรือรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

ที่เห็นก็จะมีกลุ่มชาวบ้านที่ออกมารับนักท่องเที่ยวและคอยประสานงานให้กับเรือที่มารอรับนักท่องเที่ยว

นี่คือบริเวณท่าเรือ

ราคาของเรือ ก็ขึ้นอยู่กับขนาดเรือที่เราจะเช่า ส่วนใหญ่เรือที่มารับนักท่องเที่ยวจะเป็นเรือประมงหาปลาของชาวบ้าน ที่ว่างเว้นจากการหาปลา ก็จะมารับนักท่องเที่ยวไปชมปลาโลมาที่ปากอ่าว

ราคาเรือ ลำใหญ่ 1200 บาท
ราคาเรือลำเล็ก 600 บาท

ถ้าสนใจจะให้พาชมเกาะนก และป่าชายเลน ก็เพิ่มราคาอีกประมาณ 200-300 บาท

เรือลำเล็กจะมีลักษณะคล้ายๆเรือหางยาว แบบภาพด้านล่าง

ส่วนเรือลำใหญ่ ก็จะเป็นแบบนี้

ครั้งนี้พวกเราเลือกเรือลำใหญ่ สมาชิกประมาณ 6 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ และครั้งนี้พวกเราจะไปชมเกาะนกกับป่าชายเลนกันด้วย ซึ่งตกลงราคากันได้ที่ 1500 บาท

มาดูภายในเรือใกล้ๆกัน ลักษณะเรือก็จะเป็นเรือประมงขนานแท้ ทางเจ้าของเรือใจดีเตรียมที่นั่งให้นักท่องเที่ยว พร้อมปูเสื่อให้ด้วย

อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้น้ำทะเลช่วงปากอ่าวบางปะกง ไม่ค่อยดี เลยทำให้ปลาโลมาไม่ว่ายเข้ามาใกล้นัก เลยทำให้ลุงคนขับเรือต้องขับเรือห่างจากปากอ่าวพอสมควร

ภาพปากอ่าวบางปะกง

ใกล้ควมจริงเข้ามาทุกที เมือสวนกับเรือนักท่องเที่ยวของทางโลมารีสอร์ท ที่คนขับเรือใจดีตะโกนบอกว่า เจอปลาโลมาอยู่ทางนู้นนน

และแล้วความฝันก็เป็นจริง หลังจากที่เราล่องเรืออยู่กลางทะเลเกือบชั่วโมง ก็เจอกับฝูงปลาโลมา
อาจจะถ่ายรูปมาไม่เห็นชัด แต่รับรองว่ามีจริงๆ

หลังจากใช้เวลาชมปลาโลมาอยู่สักพักใหญ่ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนแผนไปดูป่าชายเลนและเกาะนกดีกว่า

และนี่คือระหว่างทางที่จะไปเกาะนก เห็นชาวบ้านเค้าเลี้ยงหอยกันไว้

โน่น..เห็นเกาะนกแล้วค่ะ บนเกาะมีหอคอยเอาไว้ให้ส่องนกด้วย

เกาะนกนี้เป็นเกาะที่อยู่กลางทะเล เป็นเกาะไม่ใหญ่นัก ไม่มีผู้อาศัยอยู่บนเกาะและห่างจากชายฝั่งประมาณ 5-6 กิโลเมตรเท่านั้นเอง รอบเกาะจะเป็นพื้นป่าชายเลน และบนเกาะจะเต็มไปด้วยนกชนิดต่างๆ เช่นนกปากห่าง กาน้ำ และค้างคามแม่ไก่

บนเกาะสามารถขึ้นไปได้ โดยทางเทศบาลมีการทำสะพานไม้ไว้รอบเกาะเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินชมบริเวณรอบเกาะได้อย่างทั่วถึง

จากนี้ยังมีป้ายความรู้บอกถึงพันธ์ไม้ต่างๆ ที่ขึ้นอยู่บริเวณป่าชายเลนด้วย

บนเกาะนกนี้พวกเราใช้เวลาอยู่ประมาณสัก 20 นาทีได้ พอเสร็จจากการดูนก และศึกษาพันธ์ไม้ชนิดต่างๆที่ป่าชายเลนแล้วก็เริ่มเดินทางกลับ

***ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้จากเวบ http://www.s...-padriew.com ****

ข้อมูลประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม
*เทศกาล"ชมโลมา"ที่ท่าข้าม..
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ของทุกปี
ณ บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

เมื่อลมหนาวพัดผ่านมาเยือนอ่าวไทย เป็นช่วงเวลาที่น้ำเค็มหมุนเข้ามาในน้ำจืดมากว่าทุกฤดูกาล ที่บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง กระแสน้ำมิเพียงนำพาสัตว์ทะเลเข้าสู่ห้วงน้ำนี้เท่านั้น แต่ยังได้ชักนำ ปลาโลมา ทูตสันถวไมตรีแห่งทะเลไทย เข้ามาด้วย ทำให้โลมากลายเป็นสีสันของรอยต่อระหว่างแม่น้ำกับทะเล ณ บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง การล่องเรือออกไปชมปลาโลมาทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งแตกต่างจากที่อื่นๆ ปลาโลมาอิรวดีเป็นพันธ์ที่พบมากที่สุดในบริเวณนี้ และเป็นสัตว์ในพระบรมราชินูปถัมน์ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ จัดให้เป็นสัตว์คุ้มครอง ลำดับที่ 138 คือ ห้ามล่า ห้ามค้า ห้ามครอบครอง หรือห้ามเพาะพันธุ์ เว้นแต่จะอนุญาต นอกจากนี้ ยังพบปลาโลมาชนิดอื่นอีกด้วย เช่น ปลาโลมาปากขวด โลมาหลังโหนก และโลมาหัวบาตรหลังเรียบ เป็นต้น

ชาวชุมชนริมแม่น้ำบางปะกงและบ้านปลาโลมารีสอร์ท ยินดีตอนรับทุกท่านที่มาเยี่ยมเยือนและเที่ยวชมโลมา ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะได้รับความสุขและความประทับใจกลับไป

บ้านปลาโลมารีสอร์ท
บริการเรือสำราญเช่า/ขนาดมาตรฐาน/ราคากันเอง/รับประกันความปลอดภัย
* เรือขนาดเล็ก / ราคา 2,000 บาท / บรรจุ 20 ท่าน
* เรือขนาดกลาง / ราคา 4,000 บาท / บรรจุ 30 ท่าน
* เรือขนาดใหญ่ / ราคา 8,000 บาท / บรรจุ 80 ท่าน
สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : โทรศัพท์ 081-850-3596 คุณเกรียง
การเดินทาง : ใช้เส้นทางถนนบางนา – ตราด (กรุงเทพฯ – ชลบุรี) ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง กลับรถที่ กม. 53
(จุดกลับรถที่ 2 หลังจากข้ามสะพาน) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางคู่ขนาน เลี้ยวซ้ายเข้าศูนย์ฝึกอบรม กฟผ.สังเกตุป้าย โลมารีสอร์ท
**