Sony GPS Unit GPS-CS3

อุปกรณ์ช่วยบันทึกสถานที่ลงในภาพความทรงจำ จดจำตำแหน่งของภาพถ่ายโดยสัญญาณดาวเทียม

ผมได้รับ Sony GPS Unit GPS-CS3 มาพร้อมๆ กับกล้อง SONY DSC T900 จุดมุ่งหมายของพวกเรา คือ จะไปเที่ยวทะเลหน้ามรสุมและทดสอบกล้อง พร้อมเฮ้าส์ซิ่งสำหรับการถ่ายใต้น้ำที่เกาะราชา ครั้งแรกที่ได้สัมผัส ผมรู้สึกว่า GPS ตัวนี้ ขนาดเล็กกว่าที่คิดไว้ แต่ลำตัวเครื่องออกจะหนาไปหน่อยสำหรับการพกพาไปทุกที แต่ก็ถือว่าเล็กพอที่จะใส่กระเป๋าเสื้อได้อย่างไม่เกะกะมากนัก แน่นอน สิ่งที่ผมอยากได้คือขนาดที่เล็กที่สุด เพราะอย่าลืมว่านอกจากจะต้องพก GPS แล้ว เรายังต้องพกกล้องและสัมภาระอย่างอื่นอีก

ในครั้งแรกที่ได้รู้ว่า เราต้องพกพาอุปกรณ์ตัวนี้ไปด้วย ผมต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า ในตอนแรก ผมคิดว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างไร้สาระไปซักนิด เพราะโดยปรกติ ผมก็มี GPS ไว้สำหรับนำทาง ติดตัวไปทุกที่อยู่แล้ว แต่เมื่อลองใช้ จึงได้เห็นถึงความแตกต่างและประโยชน์มากขึ้น ยิ่งค่า Log File ในเครื่อง GPS นี้มีรายละเอียดการเดินทางแทบทั้งหมดของผู้ถือ หรืออาจจะเรียกได้ว่ากล่องดำ(บนเครื่องบิน) ขนาดพกพา เพียงแค่นำเมมโมรี่มาเสียบบันทึกข้อมูลที่ GPS นำรูปลงคอม เพียงเท่านี้ก็รู้ทั้งหมดแล้วว่าผู้ถือไปที่ไหนเวลาใดบ้าง

ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ตัวนี้ คือ ช่วยให้ปัญหาการลืมตำแหน่งของภาพถ่ายหมดไป และช่วยให้เราบันทึกความทรงจำ ที่มากกว่าภาพถ่าย โดยการใช้ระบบหาตำแหน่งจากสัญญาณดาวเทียม (Global Positioning System หรือ GPS) และนำพิกัดที่ได้มาบันทึกไว้ในภาพถ่ายของเรา

วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ แค่เปิดเครื่องไว้และพกติดตัวตลอดเวลา อย่างตอนที่นำอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปทดสอบก็พกติดตัวไว้ ไม่ว่าขึ้นรถ ลงเรือ โดยเครื่องจะจับสัญญาณ GPS ไปเรื่อยๆ พอถ่ายเสร็จก็มาโหลดข้อมูลจากเครื่องลงไปที่การ์ดภาพถ่ายของเรา ซึ่งรุ่นก่อนหน้านี้ต้องมานั่งทำที่คอมพิวเตอร์อย่างเดียว

และ เมื่อนำรูปลงคอมพิวเตอร์ เปิดโปรแกรมดูภาพของ Sony แล้วก็เปิดภาพโดยใช้ Map view ตอนแรกก็นึกว่าจะแสดงแค่ตำแหน่งของภาพถ่ายเท่านั้น แต่ไม่ใช่แค่นั้น โปรแกรมยังแสดงเส้นทางการเดินทางทั้งหมดในการถ่ายภาพมาให้ด้วย ซึ่งบางครั้งเส้นทางที่เดินหลงวนไปมา ก็แสดงให้เจ็บใจเล่น

สรุป

อุปกรณ์ Sony GPS Unit GPS-CS3 ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และเมื่อรวมกับโปรแกรมที่ให้มา ทั้ง PMB และ GPS Image Tracker ช่วยให้นักถ่ายภาพสามารถหาตำแหน่งของภาพถ่ายได้สะดวกมากขึ้น ข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำ อาจจะคลาดเคลื่อนเล็กน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ และเมื่ออยู่ในอาคารสถานที่จะไม่สามารถรับสัญญาณได้

และ อุปกรณ์นี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะกล้อง Sony อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกล้องดิจิตอลทุกรุ่นอีกด้วย โดยในตัวเครื่องสามารถใส่ทั้ง MS และ SD Card ได้ (ถ้าเป็น CF Card ใช้วิธีโหลดผ่านทางการ์ดรีดเดอร์ และตั้งพิกัดในโปรแกรม GPS Image Tracker)

ข้อดีอีกอย่างก็คือ สามารถนำไปใช้ได้ทั่วทั้งโลก โดยตำแหน่งและแผนที่ อ้างอิงจาก Google Earth ที่เป็นภาพถ่ายดาวเทียม ไม่เหมือน GPS นำทางทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งจะจำกัดโซนมาให้ ถ้าออกนอกเขตก็ใช้ไม่ได้ หรือต้องซื้อโปรแกรมแผนที่มาลง (แต่ GPS-CS3 ก็นำทางไม่ได้ ถ้าเอามารวมกันได้คงดี)

สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงเพิ่มเติม คือตัว Body ทำเป็นยางและมีซีลกันน้ำ หรือละอองน้ำได้บ้าง (คล้ายมือถือ Nokia รุ่นหนึ่ง) และอัตราการใช้กระแสไฟฟ้าน้อยลงกว่านี้ (ตอนที่ทดลองใช้ถ่าน Sanyo Eneloop เปิดทิ้งไว้ได้ราวๆ 18 ชม.)

เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่น่าซื้อหา มาลองใช้กันดูครับ

หลังจากที่ได้ทดสอบอุปกรณ์มาพักหนึ่ง ก็มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้งานอุปกรณ์นี้ครั้งแรก (หรือที่กำลังจะใช้)

1. ขั้นแรก ใส่ถ่านขนาด AA เข้าที่ด้านท้ายของเครื่อง โดยเอาหิ้วหัวแม่มือดันฝาปิดลงมา
2. หลังจากใส่ถ่านเสร็จแล้ว กดเปิดสวิทช์ เครื่องจะขึ้นว่า Searching ให้กดปุ่ม Menu ข้ามไปก่อน
3. จะมีหน้าจอ Menu ขึ้นว่า GPS, Matching, Tools เลือกที่ Tools
4. เข้าไปแล้วให้ตั้งค่า Time Zone ให้เป็น +7.00 เสร็จแล้วกดออก (Time Zone จะตั้งที่เท่าไร ให้ดูจากตำแหน่งของประเทศนั้น โดยค่าตัวอย่างยกตำแหน่ง Time Zone ของประเทศไทยซึ่งมีค่า +7.00)
5. กลับมาที่ Menu หลักอีกที กดเข้าไปที่ GPS และรอให้เครื่องหาสัญญาณ GPS จนเจอเสียก่อน (แนะนำให้ยืนในที่โล่ง เพราะสัญญาณ GPS ไม่สามารถผ่านกำแพงอาคารหรือวัตถุที่มีส่วนผสมของโลหะได้ ยกตัวอย่าง เช่น ฟิล์มติดรถแบบมีปรอทมาก) ให้ระวังว่า ถ้าเครื่องหาสัญญาณไม่เจอนานๆ จะแสดงผลออกมาเป็น DEMO โดยจะแสดงอยู่ด้านล่างของหน้าจอ
6. เมื่อเครื่องหาสัญญาณ GPS เจอแล้ว ให้ดูเวลาของเครื่อง GPS และนำเวลานั้น มาตั้งที่กล้องของเราให้ตรงกัน เป็นการเสร็จการเตรียมระบบ (หน้าจอปกติจะมีการแสดงผล 3 แบบคือ 1. แบบบอกพิกัดแบบคร่าวๆ และความแรงของสัญญาณ 2. บอกตำแหน่งแบบละเอียด 3. บอกวันที่และเวลาที่คำนวณจากตำแหน่งพิกัดดาวเทียม)
7. ครั้งต่อไป ทำแค่ขั้นตอนที่ 6

*** อย่าลืมพกเครื่อง GPS ติดตัวตลอดเวลานะครับ ***

หลังจากถ่ายภาพเสร็จแล้ว นำเมมโมรี่การ์ดมาเสียบที่ข้างช่องใส่ถ่าน (รุ่นนี้สามารถใช้ได้กับการ์ด MS, MS Duo และ SD Card) แล้วปิดฝา
กลับมาที่ Menu เลือกที่ Matching เครื่องจะเปรียบเทียบเวลาของภาพถ่ายกับข้อมูลตำแหน่งในตัวเครื่อง ถ้าตรงกันก็จะขึ้นจำนวนภาพที่สามารถบันทึกตำแหน่ง GPS มาให้ เสร็จแล้วกด Start (ถ้าเกิน 60 ภาพขึ้นไป จะบันทึกได้รอบละ 60 ภาพครับ อย่างเช่น 100 ภาพ ก็ทำ 2 ครั้ง)

ทีนี้มาถึงขั้นตอนดูภาพ (ต้องใช้การเชื่อมต่อ Internet ในการอ้างอิงแผนที่จาก Google Earth)

*** สมมุติว่าลงโปรแกรมเสร็จแล้ว การลงโปรแกรมก็ลงตามปกติ มี 2 โปรแกรมคือ GPS Image Tracker กับ PMB ***

1. เปิดโปรแกรม PMB
2. ต่อกล้องถ่ายภาพกับคอมพิวเตอร์ หรือเสียบการ์ดกับการ์ดรีดเดอร์ก็ได้
3. โปรแกรมจะเรียกหน้าจอโหลดรูปขึ้นมา เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการเก็บรูป แล้วกด Import

4. โปรแกรมจะแบ่งภาพให้ตามวันที่และช่วงเวลา *** รูปตัวอย่างตั้งเวลาผิดไป 12 ชม. ***

5. เสียบเครื่อง GPS เข้ากับคอมพิวเตอร์โดยผ่านสาย USB
6. เปิดโปรแกรม GPS Image Tracker และทำการโหลด Log File จากเครื่อง โดยกดที่ปุ่ม Import

7. แถบด้านขวามือที่มีปุ่ม Add File เอาไว้สำหรับเตรียมภาพสำหรับบันทึกตำแหน่งพิกัดลงในภาพถ่าย โดยสามารถเลือกภาพมาใส่ได้โดยไม่จำกัดจำนวน และสามารถลากภาพจากในโปรแกรม PMB มาใส่ไว้ในช่องนี้ได้เลย เสร็จแล้วกด Add Position Information to Files แล้วก็ตอบตกลง (โปรแกรมจะแจ้งว่า ภาพที่บันทึกข้อมูลพิกัดแล้ว บางโปรแกรมจะไม่สามารถเปิดดูภาพได้) *** ภาพที่ผ่านการทำ Matching ในเครื่อง GPS แล้ว ไม่ต้องทำกระบวนการนี้ ***

8. กลับมาที่โปรแกรม PMB จะเห็นว่าภาพที่ผ่านการกำหนดตำแหน่งแล้วจะมีเครื่องหมายเข็มทิศอยู่ในภาพ

9. การดูตำแหน่งของภาพถ่าย ทำได้โดยการคลิ๊กขวาที่รูป (ที่มีเข็มทิศ) และกด Map View *** เปิดพร้อมกันได้ทีละหลายรูป ***
10. ผลที่ได้จากการใช้งาน GPS Tracker

อุปกรณ์มาตรฐานในกล่อง

1. ซีดีโปรแกรม 1 แผ่น
2. คู่มือการใช้งาน
3. ตัวเครื่อง GPS
4. สาย USB
5. ซองพลาสติคใส
6. สายคล้องข้อมือ

ที่มา http://technology.impaqmsn.com/article.aspx?path=article&rid=0&id=11063&sp=1 และ http://light...GPS-CS3.html