Le Crystal สุนทรียรสแห่งอาหารฝรั่งเศส
ถ้าจะกล่าวถึงอาหารที่มีรสชาติอร่อยระดับโลกแล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธว่า อาหารฝรั่งเศส คือหนึ่งในอาหารที่มีความพิถีพิถันอันดับต้นๆ ของโลก เนื่องด้วยเป็นอาหารที่มีทั้งศาสตร์และศิลป์ในการทำอาหาร ใส่ใจทุกรายละเอียดจนถึงลำดับจานในการรับประทานอาหาร หรือคำศัพท์ทางการเรียกว่า French Gastronomy
อาหารฝรั่งเศสขนานแท้ต้องตอบโจทย์ของความอร่อยจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น สัมผัส และอุณหภูมิ หัวใจของอาหารฝรั่งเศสนั้น คือ การใช้วัตถุดิบที่ดีเยี่ยม ขั้นตอนต่างๆ ในการปรุงล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะ จึงทำให้ อาหารชนิดนี้ เป็นหนึ่งในอาหารมรดกโลก
เกริ่นกันมายาว วันนี้เราอยู่กันที่ ภัตตาคาร Le Crystal (เลอ คริสตัล) ที่ให้บริการอาหารฝรั่งเศสและอาหารยุโรปทั่วไป ซึ่งเปิดมานานกว่า 8 ปี ภัตราคาร Le Crystal ตั้งอยู่ที่ 74/2 ถนนสายป่าตัน เลียบแม่น้ำปิง ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 18.00 - 22.30 น.
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งโครงสร้างของตัวอาคารให้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ผสมผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมของทางสถาปัตยกรรมทางล้านนาและความร่วมสมัย ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างสวยหรูด้วยการใช้โคมไฟระย้าที่ส่องประกายวับวาวไปทั่วทั้งตัวอาคารโดยรอบ และกระจกใสที่สามารถมองเห็นวิวอันงดงามและรื่นรมย์ไปกับทิวทัศน์บริเวณสวนและแม่น้ำปิงอย่างใกล้ชิด
หลังจากเดินชมบรรยากาศด้านในได้สักพัก ทีมงานขออนุญาตเข้าไปดูด้านในของห้องครัว ก็พบกับเชฟที่กำลังรังสรรค์เมนูแรกที่มีชื่อว่า Grilled Wagyu Rib Eye Steak with Sautéed Mushrooms and Gravy ให้เราทานกันสดๆ ร้อนๆ เมนูนี้ใช้เนื้อวากิว ส่วน Rip Eye ที่มีคุณภาพสูง มีจุดเด่นพิเศษตรงที่มีไขมันแทรกอยู่ในเนื้อคล้ายกับลายหินอ่อน ยิ่งถ้ามีลวดลายมากเพียงใด รสชาติที่หวานนุ่มละมุนลิ้นที่แทบจะละลายในปากก็จะดีเยี่ยมขึ้นเท่านั้น ทำให้วากิวกลายเป็นเนื้อชั้นดีที่สุดในเหล่าบรรดาเนื้อทั้งหลายในโลก ส่วนไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อจัดอยู่ในประเภท คอเลสเตอรอลต่ำและให้ประโยชน์ต่อร่างกาย
Grilled Wagyu Rib Eye Steak with Sautéed Mushrooms and Gravy (3,500 บาท )
หลังจากย่างจนได้ที่ เชฟก็บรรจงตกแต่งด้วย ผักย่าง มันทอด แล้วราดด้วยน้ำบัลซามิครีดักชั่นที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน เสิร์ฟพร้อมซอส Mushrooms Gravy หลังจากนั้นก็พร้อมทาน เมื่อบรรจงหั่นเนื้อเป็นชิ้นๆ ก็แทบจะอดใจรอทานไม่ไหว และเพียงฟันและลิ้นสัมผัสกับเนื้อ ก็ละเมียดได้ถึงรสหวานฉ่ำของเนื้อเกรดเอที่มีชื่อ วากิว ได้อย่างมีอรรถรส จะทานเปล่าๆ หรือทานคู่กับซอส Mushrooms Gravy ก็อร่อยได้ทุกรูปแบบ
เมนูต่อไปเป็น Roasted Imported Duck Breast with Poached Apple and Raspberry Sauce (อยู่ใน set menu ราคา 2,500 บาท)
เมนูนี้ใช้เนื้ออกเป็ดที่นำเข้าจากฝรั่งเศส ที่ให้เนื้อมากกว่าและไม่เหนียว นำไป Sous vide (ซู ฟวีด เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า under vacuum หรือ สูญญากาศ) กรรมวิธีคร่าวๆก็จะเริ่มจากการนำวัตถุดิบไปซีลในถุงสูญญากาศ และนำไปปรุงโดยการแช่ต้มทั้งถุงด้วยอุณหภูมิต่ำและคงที่ประมาณ 40-60 c ตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อรักษาคุณภาพของอาหารนั้นให้สด ได้เนื้อแน่นนุ่มหวานของเป็ด
Roasted Imported Duck Breast with Poached Apple and Raspberry Sauce
เมนูนี้เสิร์ฟพร้อม Poached Apple และ Raspberry Sauce เพิ่มรสเปรี้ยวหวานและช่วยดับกลิ่นคาว ทานคู่กับคร็อกเก้มันฝรั่ง (Potato Croquettes) ก็อร่อย ในส่วนของเนื้อเป็ดต้องเอ่ยว่า เนื้อแน่น นุ่ม ไม่เหนียว ได้รสของเนื้อเป็ดแบบเต็มคำ ซึ่งต้องชม เพราะทางร้านได้คัดสรรเนื้อเป็ดที่มีคุณภาพ อีกทั้งขั้นตอนในการทำที่ต้องใช้เวลาและพิถีพิถัน จึงทำให้เมนูนี้ออกมารสดี มีคุณภาพ
เมนูที่ 3 คือ Escargot Flambé Baked Escargots with spinach and Hollandaise X.O Sauce (500 บาท)
เอสคาโก้ (Escargot) เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "หอยทาก" ซึ่งโดยมากจะหมายถึงหอยทากที่นำมารับประทานได้ และที่สำคัญต้องอร่อยด้วย เอสคาโก้มักจะถูกนำมาทำเป็นอาหารประเภท"อาหารเรียกน้ำย่อย" (Appetizer) ของชาวฝรั่งเศสและชาวยุโรป เช่น "เอสคาโก้อบเนยกระเทียม" (Escargot with garlic butter) เอสคาโก้ถือเป็นอาหารชั้นเลิศ มีราคาแพงมาก และจะขาดไม่ได้ในมื้ออาหารสุดหรูนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
Escargot Flambé Baked Escargots with spinach and Hollandaise X.O Sauce
ส่วนเมนูนี้เป็น Escargot Flambé Baked Escargots with spinach and Hollandaise X.O Sauce ที่ใช้หอยเอสคาโก้จากฝรั่งเศส นำไปผัดกับเห็ดแชมปิญอง และส่วนผสมของวัตุดิบ , ขนมปัง ,เครื่องเทศต่างๆ นำไปอบในเตาอบความร้อนสูงบนถาดหลุมโลหะ (Convection Oven) จนสุกเกรียม ปิดท้ายด้วยการราดบรั่นดีเพื่อให้ได้กลิ่นหอม สังเกตว่าจะต้อง flambé เพื่อไล่แอลกอฮอล์ออกไป ซึ่งจะทำให้เหลือเพียงแค่กลิ่นและรสที่เข้มข้นของบรั่นดีนั่นเอง
คุณบิ๊ก อาชวฤทธิ์ ดิศกุล
คุณบิ๊ก อาชวฤทธิ์ ดิศกุล ผู้บริหารภัตตราคาร Le Crystal กล่าวว่า อาหารแต่ละจานของของที่นี่ ละเมียดพิถีพิถัน แฝงไปด้วยเรื่องราวความทรงจำต่าง ๆ รสชาติที่เน้นต้นตำรับฝรั่งเศสแท้ ๆ ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบที่ต้องสดใหม่และมาจากแหล่งที่ดีที่สุด นอกจากนี้เชฟยังเน้นกรรมวิธีการปรุงแบบดั้งเดิมเพื่อรักษารสชาติของวัตถุดิบที่สดอร่อยตามธรรมชาติให้คงไว้มากที่สุด พร้อมทั้งการจัดวางอาหารบนจานที่เน้นความสวยงาม
นอกจากอาหารแล้ว ลูกค้ายังสามารถดื่มด่ำกับรสชาติอันนุ่มละมุนของไวน์ชั้นดี ที่บรรจงคัดเลือกเก็บไว้หลากหลาย ทั้งไวน์โลกเก่าอย่างไวน์ฝรั่งเศส และไวน์โลกใหม่อย่าง ออสเตรเลีย อเมริกา ชิลี อิตาลี และไวน์ไทย เสิร์ฟพร้อมแก้วไวน์ที่ถูกเลือกเป็นพิเศษ ให้ได้เต็มอรรถรสในการดื่มไวน์ พร้อมห้องเก็บไวน์ที่ลูกค้าสามารถเข้าไปเดินเลือกได้ด้วยตัวเอง
ในยามค่ำคืน สามารถเคล้าเสียงเพลงคลาสสิคด้วยดนตรีสามชิ้นแบบ ทรีโอแบนด์ เสริมอรรถรสให้อาหารมื้อพิเศษอร่อยมากยิ่งขึ้น ในช่วงเวลาตั้งแต่ 19.30–22.00 น.
ภัตตาคาร เลอ คริสตัล สามารถรับรองลูกค้าได้ทั้งสิ้นประมาณ 130 ท่าน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ห้องโถงใหญ่ชั้นล่าง สามารถรับรองได้ 40 - 100 ท่าน บริเวณระบียงด้านนอกสามารถรับรองได้ 30 - 40 ท่าน
บทสรุปของ Le Crystal นอกจากความพิถีพิถันในการปรุงและการเสิร์ฟตามแบบฉบับอาหารฝรั่งเศสแล้ว บรรยากาศของของที่นี่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ ทั้งแสงไฟระยิบระยับในอาคาร รวมไปถึงวิวของแม่น้ำปิงที่มีความงดงามในยามค่ำคืน ชวนสร้างความประทับใจ ทำให้การรับประทานอาหารของคุณเป็นมื้อพิเศษได้อย่างมิรู้ลืมครับ โดยที่สามารถค้นหาและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.w...s/le-crystal 
Navthai : ชุมชนผู้ใช้งาน GPS อันดับหนึ่งของไทย
