26 เมษายน 2024, 18:10:42 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เว็บบอร์ด   ช่วยเหลือ ซื้อขายสินค้า Shop เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ:  แล้วแม่ จะกอดใคร? - Forward Mail โดนๆ  (อ่าน 2348 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
rushk
Sr. Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
รางวัล:
Donateผู้สนับสนุน
ID number: 133
กระทู้: 200
$10.02 credits

View Inventory
Send Money to rushk

Referrals: 0
คำขอบคุณ
-ได้ให้: 128
-ได้รับ: 290



พลังชีวิต
0%


« เมื่อ: 02 ธันวาคม 2009, 16:58:33 »


คอลัมภ์ "คิดเล็กคิดน้อย" โดย คุณอั๋น ภูวนาท คุนผลิน  นิตยสารแพรว ฉบับที่ 664    "แล้วแม่ จะกอดใคร"


คุณอั๋นเล่าเรื่องของครอบครัวหนึ่ง ที่ไปส่งลูกชายที่สนามบินค่ะ


"...สาย ตาของผมไปสะดุดกับครอบครัวเล็กครอบครัวหนึ่งเข้า น่าจะเป็นคนจีนพ่อ-แม่-ลูก.... ภาพที่เห็นนั้น คุณลูกตัวใหญ่ซึ่งอายุน่าจะเฉียดสามสิบได้ กำลังกอดเอวฟุบหน้าอยู่กับตักของแม่ ร้องไห้จนตัวสั่นไปหมด ....แม่เอามือลูบหัวลูกชาย ราวกับเขายังคงเป็นเด็กน้อยตัวเล็กคนเดิมเบา ๆ ด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น แต่ฉายแววเศร้าอยู่ในที ในขณะที่คุณพ่อได้แต่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ มือกอดอกบ้าง ล้วงกระเป๋าบ้าง


เวลา ผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ แต่คงนานพอที่จะทำให้คนทั้งสามต้องเริ่มต้นบอกลากันจริง ๆ สักที ....ลูกชายคลายกอดจากแม่... ค่อย ๆ ยืนขึ้นช้า ๆ น้ำตานองหน้า เขาสวมกอดผู้หญิงที่สูงเกือบไม่ถึงไหล่คนเดิมตรงหน้าอีกครั้ง ... เป็นกอดที่แม้จะเนิ่นนานและแน่นแค่ไหน ก็เหมือนกับมันดูจะสั้นเกินไปอยู่ดี ลูกชายเช็ดน้ำตาแล้วหันกลับมามองพ่อ เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยและกอดกันหลวม ๆ พร้อมตบไหล่กันเบา ๆ พอเป็นพิธี

ก่อนจะลาจากกันไป เขากอดแม่อีกครั้งอย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วเดินถอยหลังขึ้นบันไดเลื่อนไป แม่ยังคงยืนมองดูลูกค่อย ๆ เลื่อนไกลออกไปอย่างสงบนิ่ง ยกมือขึ้นโบกลาช้า ๆ ...ในขณะที่พ่อเริ่มเดินก้มๆ เงยๆ หาทางมองให้เห็นลูกที่ตอนนี้อยู่นไกลจนเกือบลับสายตาอย่างลุกลี้ลุกลน


ผมนึกในใจขึ้นมาอย่างสงสัยว่า "ผู้หญิงคนนี้ช่างใจแข็งจริงที่ไม่ร้องไห้เลยสักนิด"

... และแล้วภาพอันน่าแปลกใจที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็น ก็เกิดขึ้นตรงหน้า ... ในวินาทีที่ลูกชายได้ลับสายตาทั้งคู่ไปแล้ว ผู้ชายที่เมื่อครู่ยืนอยู่ห่าง ๆ กอดอกนิ่ง ๆ มองไปทางอื่น  เหมือนไม่ค่อยจะสนใจภาพที่อยู่ตรงหน้าของลูกชายกับหญิงผู้เป็นแม่เท่าไรนัก โผเข้ากอดภรรยาแล้วร้องไห้ออกมาอย่างมากมาย...  จนผู้หญิงคนเดิมที่ตอนนี้เปลี่ยนจากหน้าที่ของแม่มาเป็นภรรยาแล้วนั้น ต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยซับน้ำตาให้ แล้วกอดเขาพร้อมตบไหล่เบา ๆ ราวกับกำลังปลอบเด็กน้อยคนหนึ่งที่อยู่ในร่างของชายสูงอายุ...


ผมคิดถามตัวเองเล่น ๆ ไปว่า ถ้าวันนี้เธอคนนั้นร้องไห้ขึ้นมาบ้างล่ะ จะเหลือใครแข็งแรงพอให้เธอกอดบ้าง?...

ผมเคยเหนื่อยล้า ท้อแท้ อ่อนแรงมาหลายครั้ง... สิ่งที่ผมทำทุกครั้งคือเดินเข้าไปกอดแม่แน่น ๆ แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลช้า ๆ หรือในบางครั้งก็แค่กอดแน่น ๆ แล้วกัดฟันทำฟอร์มดี ยิ้มแหย ๆ ไปว่าไม่มีอะไรหรอก แค่อยากกอด แล้วค่อยแอบไปร้องไห้คนเดียวในห้องทีหลัง เป็นแบบนั้นมาร่วมสามสิบปีแล้ว


           แต่วันนี้กับภาพที่เห็นเมื่อครู่เป็นวันแรกที่ทำให้ผมเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ....แล้วผู้หญิงที่ผมรักที่สุดในโลกล่ะ คนที่มีรอยยิ้มให้กับทุกคนในครอบครัวอย่างไม่มีวันหมด รอยยิ้มที่หลายครั้งต้องซ่อนความเหน็ดเหนื่อยของตัวเองไว้ เพื่อซึมซับความเจ็บช้ำให้กับคนที่เธอรัก.... ผู้หญิงตัวนิ่ม ๆ ที่อ้อมกอดของเธอเยียวยาได้ตั้งแต่ แผลถลอกหกล้มที่หัวเข่า ...จนถึงหัวใจที่แตกสลาย ... ในวันที่เธออ่อนล้า ผมแข็งแรงพอที่จะยืนให้เธอกอดบ้างไหม?



           ผมเชื่อว่า เราส่วนใหญ่คงไม่ลืมกันหรอกที่จะบอกให้ผู้หญิงคนนี้รู้ว่าเรารัก และเราก็มักพูดเตือนกันเสมอ ๆ อยู่แล้วว่า อย่าลืมกอดแม่บ้างนะ วันนี้ผมขอเพิ่มอีกอย่างแล้วกันว่า.... อย่าลืม ให้แม่กอดคุณบ้างนะครับ เพราะเธอก็อาจต้องการมันไม่น้อยไปกว่าคุณหรือใคร.."

           เห็นคุณแม่หลายๆท่านแล้วนับถือในความอดทนจริงๆค่ะ

           บางคนทั้งทำงาน เลี้ยงลูกเอง ดูแลพ่อแม่ บางทีก็เผื่อแผ่ไปพ่อแม่สามีด้วย ดูแลสามี โดยไม่เคยปริปากบ่น

           ผู้หญิงที่ว่ากันว่าเป็นเพศที่อ่อนแอ กลับแข้มแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ เพื่อคนที่เธอรัก

           ขอแสดงความนับถือในหัวใจที่เข้มแข็งของ "คุณแม่" ทุกท่าน

           แต่อย่าลืมนะคะ เหนื่อยนักก็หาคนกอดบ้างค่ะ


           สำหรับคู่สามีภรรยานะคะ เราสามารถดูแลหัวใจของซึ่งกันและกันให้แข็งแรงได้ง่ายๆค่ะ  เพียงแค่กอดกันบ่อยๆ เท่านั้นเอง

           นัก วิจัยของมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลน่า สหรัฐฯ ทดลองให้สามีกอดภรรยา(ของตนเอง) เพียงวันละ 20 วินาที พบว่าพฤติกรรมดังกล่าวช่วยลดความดันโลหิต ส่งผลต่อสุขภาพทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เนื่องจากช่วยลดความเครียด

           นอกจากนั้นยังพบว่า ระดับฮอร์โมนซึ่งช่วยลดความดันโลหิตของผู้ที่กำลังมีความรัก จะสูงกว่าผู้ที่ไม่มีความรักอีกด้วย ^ ^

 
           มือที่คอยตี ก็มือคู่เดียวกับที่ทายา
           ปากที่คอยด่า ก็คือปากเดียวกับที่เตือนใจ
           แววตาที่เฝ้ามอง แววตาที่ร้องไห้
           ไม่เคยจะพบเจอในใคร นอกจากคนนี้

           คนที่ชื่นชม เมื่อเราหกล้มแล้วลุกเองใหม่
           คนที่ภูมิใจ แค่เราทำสิ่งเล็กน้อยได้ดี
           จะโตสักเท่าไร ก็ห่วงได้ทุกที
           ขอเพียงได้เห็นเรายังดี สุขใจแล้วหนา
           เหงื่อที่เสียไปไม่คิดราคา
           เหนื่อยจะทนน่ะ ถ้าลูกจะสบาย

           รู้ไหมน้ำนมหยดหนึ่งซึมไหลมา
           ต้องใช้น้ำตาหยาดเหงื่อสักเท่าไร
           บอกแม่เถอะนะ บอกทุกวัน ว่ารักท่านมากมาย
           กอดแม่เถอะนะ ให้คุ้นเคย
           กอดเลยไม่ต้องอาย...ก่อนไม่มีแม่ให้กอด 
บันทึกการเข้า

ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน
 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
โปรแกรมสำหรับการตั้ง Forward Port สำหรับเราท์เตอร์ต่างๆ
Other Software (PC)
มด [tewbc] 1 3537 กระทู้ล่าสุด 08 พฤศจิกายน 2010, 20:35:17
โดย tont
วิธียกเลิก การถูกคิดเงินจาก Voice mail
ห้องนั่งเล่น
^SuRaYoOt^ 0 2475 กระทู้ล่าสุด 23 พฤษภาคม 2014, 05:51:00
โดย ^SuRaYoOt^
กล้องวรจรปิด ipcam แบบที่ดูผ่านมือถือไม่ต้อง forward port ทำไง
ห้องนั่งเล่น
UncleJack 11 4140 กระทู้ล่าสุด 29 มีนาคม 2015, 23:10:03
โดย alex
Powered by MySQL Powered by PHP

Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
SimplePortal 2.3.5 © 2008-2012, SimplePortal | Thai language by ThaiSMF

SMFAds for Free Forums
© Copyrights 2010 navthai.com mod by trex_ln
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.039 วินาที กับ 35 คำสั่ง