FW: จาก E-Mail
--
> ตำรวจทางหลวงเริ่มใช้ เครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ ระวังไว้นะ
>
> เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ควรขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด .......
> บนทางหลวง ในเขตเทศบาล
> รถเก๋งหรือรถปิกอัพ ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 80 กม./ชม.
> รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน 60 กม./ชม.
> บนทางหลวง นอกเขตเทศบาล
> ให้รถเก๋งหรือปิกอัพ ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.
> รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน 80 กม./ชม. และ
> บนมอเตอร์เวย์
> รถเก๋งหรือปิกอัพ ไม่เกิน 120 กม./ชม.
> รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน 100 กม./ชม.
> ทั้งนี้ในเชิงเทคนิค ได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากทั่วโลก การขับขี่รถที่ ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.
> นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 15-20%
> ยังช่วยลดการตายบนถนนได้ 12-24% แต่ความเร็วดังกล่าว ไม่สามารถลดอุบัติเหตุได้ หากทุกคน
> ประมาท เมามายขณะขับรถ และการไม่ร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎหมาย
> ข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลและสำนักงานนโยบาย
>
>
> เครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ � การทำงานของเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์นี้
> สามารถใช้งานได้ทั้งระบบควบคุมเองและระบบอัตโนมัติ โดยเมื่อรถที่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมาย
> กำหนดผ่านจุดตรวจกล้องก็จะทำการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ จากนั้นความเร็วและภาพรถ จะถูกส่งมาจัด
> เก็บและแสดงที่ชุดประมวลผลพร้อมแสดง วัน เดือน ปี เวลา สถานที่
> จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงเพื่อที่จะตรวจสอบทะเบียนรถ และ
> ออกใบสั่งส่งไปยังที่อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียน ต่อไป และหากผู้ได้รับใบสั่งไม่ไปชำระค่าปรับ
> ภายในเวลา 7 วัน กองบังคับการตำรวจทางหลวงจะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งเพื่ออายัดการต่อ
> ทะเบียนรถด้วย
> สำหรับความเม่นยำของเครื่องเป็นไปตามมาตรฐานขององค์กร International Association of
> Chiefs of Police (The IACP) ทั้งยังประสานสำนักมาตรวิทยาแห่งชาติ เพื่อทำการคาริเบ
> ธเครื่องเป็นประจำทุกปีและก่อนที่จะนำไปตรวจจับตามจุดต่างๆ ก็จะมีการทดสอบก่อนทุกครั้งด้วยจึงมั่นใจ
> ได้ว่าเครื่องจะสามารถตรวจจับได้อ ย่างแม่นยำ เส้นทางที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัตินี้
> มีอยู่หลายจุดทั่วประเทศ ได้แก่
>
> 1. เส้นทางสายพหลโยธิน ช่วงรังสิต ถึง สระบุรี 2 จุด
> 2. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง สระบุรี ถึง นครราชสีมา 2 จุด
> 3. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น 2 จุด
> 4. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง อยุธยา ถึง นครสวรรค์ 1 จุด
> 5. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง นครสวรรค์ ถึง ตาก 1 จุด
> 6. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง ตาก ถึง เชียงใหม่ 1 จุด
> 7. เส้นทางสายกรุงเทพ นครปฐม วังมะนาว 1 จุด
> 8. เส้นทางสายกรุงเทพ วังมะนาว 1 จุด
> 9. เส้นทางสาย วังมะนาว ถึง หัวหิน 1 จุด
> 10. เส้นทางสายเพชรเกษม ( เลี่ยงเมือง ) ชะอำ ถึง ปราณบุรี 1 จุด
> 11. เส้นทางสายเพชรเกษม ประจวบคีรีขันธ์ ถึง ชุมพร 1 จุด
> 12. เส้นทางสายเพชรเกษม ชุมพรถึง สุราษฎร์ธานี 1 จุด
> 13. เส้นทางสายบางนา - ตราด ระหว่าง กรุงเทพ ถึง บางปะกง 1 จุด
> 14. เส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ชลบุรี ถึง พัทยา 1 จุด
> 15. เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ชลบุรี ถึง ระยอง 2 จุด
> 16. และเส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ระยอง ถึง จันทบุรี 1 จุด
>
> ซึ่งตำรวจทางหลวงจะทำการสุ่มเปลี่ยนจุดตรวจทุกครั้งที่มีการติดตั้งด้วย หลังจากตำรวจทางหลวงจึงได้
> จัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ จำนวน 45 ชุด แจกจ่ายให้กับสถานีตำรวจทาง
> หลวงกองกำกับการ และกองบังคับการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศได้ใช้ติดตั้งเพื่อปรามบรรดาตีนผี
> เหล่านี้ โดยข้อมูลจากหน่วยตรวจจับความเร็วไฮ -
> เทคทั่วประเทศที่ถูกส่งมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงพบว่าเพียงแค่ 3 เดือนแรกที่มีการติดตั้ง
> เครื่องก็ได้จ่ายใบสั่งให้ผู้ที่ขับรถเร็วเกินกำหนดไปแล้วจำนวนมากถึง 42,304 ราย ซึ่งจะนำไปสู่
> การปรามผู้ขับรถเร็วได้ในอนาคต โดยตำรวจทางหลวงยังได้มีแผนที่จะติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็ว
> เพิ่มอีก 45 ชุด เพื่อให้แต่ละหน่วยงานมี 2
> ชุดคลอบคลุมพื้นที่การใช้งานในอนาคตด้วย หลักฐานที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับความ
> เร็วอัตโนมัติ คือ ใบสั่งที่ส่งให้ทางไปรษณีย์ ........... � ส่งต่อ ๆ ไปให้เพื่อน ๆ ซึ่งอาจตก
> เป็นเหยื่อของเจ้าเครื่องมือไฮ-เทคล่าสุดนี้ 5555
>