16 มิถุนายน 2024, 06:18:39 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เว็บบอร์ด   ช่วยเหลือ ซื้อขายสินค้า Shop เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ:  เปิดร่าง พ.ร.บ.คอมฯ ฉบับใหม่ ก๊อปไฟล์ - โหลดบิท เจอคุก 3 ปี  (อ่าน 12132 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
^SuRaYoOt^
Global Moderator
**


สูงต่ำอยู่ที่เราทำตัว ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
ID number: 6
กระทู้: 14423
$3658.87 credits

View Inventory
Send Money to ^SuRaYoOt^

Referrals: 0
คำขอบคุณ
-ได้ให้: 1788
-ได้รับ: 69260



พลังชีวิต
0%


« เมื่อ: 10 เมษายน 2011, 05:38:08 »



อัปเกรดพ.ร.บ.คอมฯ เพิ่มโทษผู้ดูแลระบบ ก๊อปไฟล์โหลดบิทเสี่ยงคุก  (ไอซีที)

         เปิดตัวร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เวอร์ชั่นใหม่จากกระทรวงไอซีที เพิ่มฟังก์ชั่น "ผู้ดูแลระบบ" โทษมากกว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป ส่วน ก๊อปปี้ไฟล์ โหลดบิท คุก 3 ปี

         เมื่อวันจันทร์ ที่ 28 มีนาคม 54 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จัดประชุมรับฟังและให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยในการประชุมดังกล่าว มีการแจกเอกสารร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ที่กระทรวงไอซีทีจัดทำขึ้นด้วย

         ร่างกฎหมายนี้ เขียนขึ้นเพื่อให้ยกเลิก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ทั้งฉบับ และให้ใช้ร่างฉบับใหม่นี้แทน  อย่างไรก็ดี โครงสร้างของเนื้อหากฎหมายมีลักษณะคล้ายคลึงฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญที่ต่างไป ดังนี้


 ประเด็นที่ 1 เพิ่มนิยาม "ผู้ดูแลระบบ"

         มาตรา 4 เพิ่มนิยามคำว่า "ผู้ดูแลระบบ" หมายความว่า "ผู้มีสิทธิเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการแก่ผู้อื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น"

         ในกฎหมายเดิมมีการกำหนดโทษของ "ผู้ให้บริการ" ซึ่งหมายถึงผู้ที่ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า การพยายามเอาผิดผู้ให้บริการซึ่งถือเป็น "ตัวกลาง" ในการสื่อสาร จะส่งผลต่อความหวาดกลัวและทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเอง อีกทั้งในแง่ของกฎหมายคำว่าผู้ให้บริการก็ตีความได้อย่างกว้างขวาง คือแทบจะทุกขั้นตอนที่มีความเกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารก็ล้วนเป็นผู้ให้บริการทั้งสิ้น

         สำหรับร่างฉบับใหม่ที่เพิ่มนิยามคำว่า "ผู้ดูแลระบบ" ขึ้นมานี้ อาจหมายความถึงเจ้าของเว็บไซต์ เว็บมาสเตอร์ แอดมินระบบเครือข่าย แอดมินฐานข้อมูล ผู้ดูแลเว็บบอร์ด บรรณาธิการเนื้อหาเว็บ เจ้าของบล็อก ขณะที่ "ผู้ให้บริการ" อาจหมายความถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

         ตามร่างกฎหมายนี้ ตัวกลางต้องรับโทษเท่ากับผู้ที่กระทำความผิด เช่น หากมีการเขียนข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง กระทบกระเทือนต่อความมั่นคง ผู้ดูแลระบบและผู้ให้บริการที่จงใจหรือยินยอมมีความผิดทางอาญาเท่ากับผู้ที่กระทำความผิด และสำหรับความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ เช่น การเจาะระบบ การดักข้อมูล หากผู้กระทำนั้นเป็นผู้ดูแลระบบเสียเอง จะมีโทษ 1.5 เท่า ของอัตราโทษที่กำหนดกับคนทั่วไป


 ประเด็นที่ 2 คัดลอกไฟล์ จำคุกสูงสุด 3 ปี

         สิ่งใหม่ในกฎหมายนี้ คือมีมาตรา 16 ที่ เพิ่มมาว่า "ผู้ใดสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

         ทั้งนี้ การทำสำเนาคอมพิวเตอร์ อาจหมายถึงการคัดลอกไฟล์ การดาว์นโหลดไฟล์จากเว็บไซต์ต่าง ๆ มาตรานี้อาจมีไว้ใช้เอาผิดกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์หรือเพลง แต่แนวทางการเขียนเช่นนี้อาจกระทบไปถึงการแบ็กอัปข้อมูล การเข้าเว็บแล้วเบราว์เซอร์ดาว์นโหลดมาพักไว้ในเครื่องโดยอัตโนมัติหรือที่ เรียกว่า "แคช" (cache เป็น เทคนิคที่ช่วยให้เรียกดูข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยเก็บข้อมูลที่เคยเรียกดูแล้วไว้ในเครื่อง เพื่อให้การดูครั้งต่อไป ไม่ต้องโหลดซ้ำ) ซึ่งผู้ใช้อาจมิได้มีเจตนาหรือกระทั่งรับรู้ว่ามีกระทำการดังกล่าว



 ประเด็นที่ 3 มีไฟล์ลามกเกี่ยวกับเด็ก ผิด

         ในมาตรา 25 "ผู้ใดครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กหรือเยาวชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

         เป็นครั้งแรกที่มีการระบุขอบเขตเรื่องลามกเด็กหรือเยาวชนโดยเฉพาะขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความคลุมเครือว่า ลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนนั้นหมายความอย่างไร นอกจากนี้ มาตราดังกล่าวยังเป็นการเอาผิดที่ผู้บริโภค ซึ่งมีความน่ากังวลว่า การชี้วัดที่ "การครอบครอง" อาจทำให้เกิดการเอาผิดที่ไม่เป็นธรรม เพราะธรรมชาติการเข้าเว็บทั่วไป ผู้ใช้ย่อมไม่อาจรู้ได้ว่าการเข้าชมแต่ละครั้งดาว์นโหลดไฟล์ใดมาโดยอัตโนมัติบ้าง และหากแม้คอมพิวเตอร์ถูกตรวจแล้วพบว่ามีไฟล์โป๊เด็ก ก็ไม่อาจหมายความได้ว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ดูผู้ชม


 ประเด็นที่ 4 ยังเอาผิดกับเนื้อหา

         มาตรา 24 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน

         เนื้อความข้างต้น เป็นการรวมเอาข้อความในมาตรา14 (1) และ (2) ของ กฎหมายปัจจุบันมารวมกัน ทั้งนี้ หากย้อนไปถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิมก่อนจะเป็นข้อความดังที่เห็น มาจากความพยายามเอาผิดกรณีการทำหน้าเว็บเลียนแบบให้เข้าใจว่าเป็นหน้าเว็บ จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล (phishing) จึง เขียนกฎหมายออกมาว่า การทำข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมถือเป็นความผิด แต่เมื่อแนวคิดนี้มาอยู่ในมือนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ ได้ตีความคำว่า "ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม" เสียใหม่ กลายเป็นเรื่องการเขียนเนื้อหาอันเป็นเท็จ และนำไปใช้เอาผิดฟ้องร้องกันในเรื่องการหมิ่นประมาท ความเข้าใจผิดนี้ยังดำรงอยู่และต่อเนื่องมาถึงร่างนี้ซึ่งได้ปรับถ้อยคำใหม่ และกำกับด้วยความน่าจะเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

         หากพิจารณาจากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดีคอมพิวเตอร์ที่ผ่านมา ปัญหานี้ก่อให้เกิดการเอาผิดประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะหลายกรณี รัฐไทยเป็นฝ่ายครอบครองการนิยามความจริง ปกปิดความจริง ซึ่งย่อมส่งผลให้คนหันไปแสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตแทน อันอาจถูกตีความได้ว่ากระทบต่อความไม่มั่นคงของ "รัฐบาล" ข้อความกฎหมายลักษณะนี้ ยังขัดต่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็นโดยไม่จำเป็น


 ประเด็นที่ 5 ดูหมิ่น ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

         มาตรา 26 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือข้อมูลอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย หรือเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่แท้จริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

         ที่ผ่านมามีความพยายามฟ้องคดีหมิ่นประมาทซึ่งกันและกันโดยใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำนวนมาก แต่การกำหนดข้อหายังไม่มีมาตราใดใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่จะใช้ได้อย่างตรงประเด็น มีเพียงมาตรา 14 (1) ที่ระบุเรื่องข้อมูลอันเป็นเท็จดังที่กล่าวมาแล้ว และมาตรา 16 ว่าด้วยภาพตัดต่อในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ได้สร้างความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ใช้ตั้งข้อหาการดูหมิ่นต่อกันได้ง่ายขึ้น

         ข้อสังเกตคือ ความผิดตามร่างฉบับใหม่นี้กำหนดให้การดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทมีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งที่การหมิ่นประมาทในกรณีปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท



 ประเด็นที่ 6 ส่งสแปม ต้องเปิดช่องให้เลิกรับบริการ

         มาตรา 21 ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เป็นจำนวนตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด เพื่อประโยชน์ทางการค้าจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ และโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

         จากที่กฎหมายเดิมกำหนดเพียงว่าการส่งจดหมายรบกวน หากเป็นการส่งโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา ถือว่าผิดกฎหมาย ในร่างฉบับใหม่แก้ไขว่า หากการส่งข้อมูลเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการบอกรับได้ ทั้งนี้อัตราโทษลดลงจากเดิมที่กำหนดโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท มาเป็นจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ

         ทั้งนี้ ยังต้องตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากการส่งข้อมูลดังกล่าว แม้จะเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ แต่ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ทางการค้า ก็จะไม่ผิดตามร่างฉบับใหม่นี้


 ประเด็นที่ 7 เก็บโปรแกรมทะลุทะลวงไว้ คุกหนึ่งปี

         มาตรา 23 ผู้ใดผลิต จำหน่าย จ่ายแจก ทำซ้ำ มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ชุดคำสั่ง หรืออุปกรณ์ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา 15 มาตรา 16 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 และมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

         น่าสังเกตว่า เพียงแค่ทำซ้ำหรือมีไว้ซึ่งโปรแกรมที่ใช้เจาะระบบ การก๊อปปี้ดาวน์โหลดไฟล์อย่างทอร์เรนท์ การดักข้อมูล การก่อกวนระบบ ก็มีความผิดจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท เรื่องนี้น่าจะกระทบต่อการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์โดยตรง


 ประเด็นที่ 8 เพิ่มโทษผู้เจาะระบบ

         สำหรับกรณีการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เดิมกำหนดโทษจำคุกไว้ไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท ร่างกฎหมายใหม่เพิ่มเพดานโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท (เพิ่มขึ้น 4 เท่า)



 ประเด็นที่ 9 ให้หน้าที่หน่วยใหม่ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)

         ร่างกฎหมายนี้กำหนดหน้าที่ให้หน่วยงานซึ่งมีชื่อว่า "สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)" เรียกโดยย่อว่า "สพธอ." และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "Electronic Transactions Development Agency (Public Organization)" เรียกโดยย่อว่า "ETDA" เป็นองค์การมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงไอซีที

         หน่วยงานนี้เพิ่งตั้งขึ้นเป็นทางการประกาศผ่าน "พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิสก์ พ.ศ. 2554" เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 โดยเริ่มมีการโอนอำนาจหน้าที่และจัดทำระเบียบ สรรหาประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554

         ในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นี้ กำหนดให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) มีบทบาทเป็นฝ่ายเลขานุการของ "คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์" ภายใต้ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับที่กำลังร่างนี้

         นอกจากนี้ หากคดีใดที่ต้องการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ในร่างกฎหมายนี้กำหนดว่า พนักงานสอบสวนอาจร้องขอให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์การมหาชน) เป็นผู้ประสานงานกลางให้ได้ข้อมูลมา


 ประเด็นที่ 10 ตั้งคณะกรรมการ สัดส่วน 8 – 3 – 0 : รัฐตำรวจ-ผู้ทรงคุณวุฒิ-ประชาชน

         ร่างกฎหมายนี้เพิ่มกลไก "คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์" ประกอบด้วย

         - นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ

         - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นรองประธานกรรมการ

         - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยระบุตัวบุคคลจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านกฎหมาย วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การเงินการธนาคาร หรือสังคมศาสตร์จำนวนสามคน โดยให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี

         คณะกรรมการชุดนี้ ให้ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์กรมหาชน), สำนักงานกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (สังกัดกระทรวงไอซีที), สำนักคดีเทคโนโลยี (สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม), และ กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี (บก.สสท.) (สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เป็นเลขานุการร่วมกัน

         คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ออกระเบียบ ประกาศ ตามที่กำหนดใน พ.ร.บ.นี้ และมีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐาน รวมถึง "ปฏิบัติการอื่นใด" เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

ที่มาของข่าวครับ   สำนึกผิด สำนึกผิด

เพื่อน ๆ เห็นร่างฉบับนี้แล้วมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ?   สะใจจริง ๆ สะใจจริง ๆ
บันทึกการเข้า

ไม่รับตอบปัญหาทาง PM  ไม่ต้องขอโปรแกรมทุกชนิดทาง PM

 
htcgps
S8 member
*****


คนเก่งมีมาก ที่หายากคือคนดี
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รางวัล:
lifetime member
ID number: 146
กระทู้: 125
$4.10 credits

View Inventory
Send Money to htcgps

Referrals: 0
คำขอบคุณ
-ได้ให้: 889
-ได้รับ: 102



พลังชีวิต
0%


« ตอบ #21 เมื่อ: 19 เมษายน 2011, 18:13:21 »

งานนี้เตรียมตัวติดคุกได้เลย................


น่าจะมีกฎหมายเอาผิดกับ พวก สส.ที่ปล่อยเหี้..ย , สัตว์ , ในสภาบ้างนะ ฐานะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเด็ก   ง่วง

บันทึกการเข้า
uganda
สมาชิก S8 ตลอดชีพ
S8 member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
รางวัล:
x1x1s8lt member...
ID number: 18
กระทู้: 163
$0.01 credits

View Inventory
Send Money to uganda

Referrals: 0
คำขอบคุณ
-ได้ให้: 1440
-ได้รับ: 557



พลังชีวิต
0%


« ตอบ #22 เมื่อ: 19 เมษายน 2011, 18:26:26 »

นายกฯชะลอร่างพ.ร.บ.ความผิดคอมพิวเตอร์

         นายกรัฐมนตรี เห็นควรชะลอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เข้าสู่การพิจารณา หลังเครือข่ายพลเมืองเน็ตกว่า 500 คน ลงชื่อค้าน อ้างขาดความเห็นประชาชน

         ความเคลื่อนไหว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันนี้ ได้มีเครือข่ายพลเมืองเน็ต ที่ร่วมกันลงชื่อกว่า 500 คนยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการนำร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยผ่านการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน

         โดย น.ส.อรพิณ ยิ่งยงพัฒนา ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรี เห็นด้วยที่จะชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปก่อน และได้รับการยืนยันจาก นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ว่า ยังไม่มีการเสนอกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อขั้นตอนขณะนี้ อยู่ระหว่างการรับฟังความคิด จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

         อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังได้แสดงความเป็นห่วงสังคมอินเทอร์เน็ต ที่ไม่มีการแยกแยะ การแสดงความเห็นที่บางครั้งมีการยั่วยุ ปลุกปั่น นายกรัฐมนตรี จึงฝากให้คนใช้อินเทอร์เน็ตช่วยกันดูแลกันเองด้วย


Thank: (ไอเอ็นเอ็น)
บันทึกการเข้า

"ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะคน"
^SuRaYoOt^
Global Moderator
**


สูงต่ำอยู่ที่เราทำตัว ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
ID number: 6
กระทู้: 14423
$3658.87 credits

View Inventory
Send Money to ^SuRaYoOt^

Referrals: 0
คำขอบคุณ
-ได้ให้: 1788
-ได้รับ: 69260



พลังชีวิต
0%


« ตอบ #23 เมื่อ: 21 เมษายน 2011, 17:17:36 »

มีเกร็ดเรื่องนี้ ก่อนนายกชะลอออกไป ...เกือบไปแล้ว  Tongue Tongue Tongue

รุมต้านร่างพ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่ กม.คุมเข้มครอบจักรวาล"ธุรกิจ-คนใช้เน็ต"เสี่ยงคุก !!


รุมต้าน "ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์" ฉบับใหม่ ล่ารายชื่อคัดค้าน สับแหลก ยิ่งแก้ยิ่งเละครอบจักรวาล "บล็อกเกอร์-ไอเอสพี-โฮสติ้ง-คนใช้อินเทอร์เน็ต" มีสิทธิเจอ "คุก" ไม่รู้ตัว แค่ "รีทวิต" ยังอาจทำผิด ม.26 ทั้งบีบธุรกิจมุดลงใต้ดิน เพราะไม่อยากเสี่ยง แถมยังจับอาชญากรคอมพิวเตอร์ได้ยากขึ้นอีก ขณะที่คณะทำงานเผย ต้องการปรับโครงสร้างการบังคับใช้ กม.ให้เข้มแข็ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังคณะทำงานร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ....ได้จัดทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับร่าง ก.ม.ฉบับใหม่ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2554 ที่ผ่านมา โดยเชิญเฉพาะผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์และกฎหมายร่วมแสดงความคิดเห็น ร่างฉบับดังกล่าวจึงเริ่มปรากฏสู่สาธารณะ และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์วงกว้างในแวดวงผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

ilaw ล่ารายชื่อต้าน กม.

โดยโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม ได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชนและผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เรื่องขอให้ร่วมกันแสดงออกเพื่อ "หยุด" การนำร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ลงวันที่ 18 เม.ย. 2554 เผยแพร่บนเว็บไซต์ http://ilaw. or.th/ รวบรวมรายชื่อผู้คัดค้านทั้งหมดเสนอต่อนายกรัฐมนตรี

จดหมายเปิดผนึกระบุว่า ร่าง กม.ใหม่ไม่แก้ปัญหาเดิม ยังเพิ่มเนื้อหาหลายมาตราที่ส่งผลให้ผู้ดูแลระบบซึ่งเป็นตัวกลางมีความเสี่ยงต่อโทษอาญาสูงขึ้น โปรแกรมหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและเข้าถึงข้อมูลอาจกลายเป็นโปรแกรมผิดกฎหมาย การสำเนาข้อมูลยังเสี่ยงต่อการถูกตีความว่าผิดกฎหมาย

เช่นเดียวกัน ตัวบทหลายมาตราเปิดช่องให้ตีความได้กว้างขวางตามดุลพินิจของผู้บังคับใช้ กม.ฝ่ายเดียว จนกล่าวได้ว่าร่างนี้จะทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์มีโอกาสทำผิด กม.โดยไม่รู้ตัว เป็นต้น

ไอซีทีชง ครม.จ่อคิวอนุมัติ

นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เนคเทค คณะทำงานร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. .... กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า วัตถุ ประสงค์ของการแก้ไข เพื่อปรับโครงสร้างการบังคับใช้กฎหมายให้ เข้มแข็งมากขึ้น จากเดิมการบังคับใช้ถือเป็นจุดอ่อนสำคัญ ซึ่งกระแสต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นี้เป็นเรื่องปกติ และเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทั่วไป

"กม.ฉบับนี้ไม่ใช่แค่ป้องกันการกระทำความผิดตามมาตรา 14 คือการนำเข้าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ แต่ต้องการป้องกันอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ซึ่งล้วนแต่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหาศาล ทั้งเป็น การป้องกันการก่อการร้ายด้วย จึงถือเป็นการมองภาพใหญ่ ซึ่งไม่ได้แปลก หรือพิสดารไปกว่า กม.คอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ในสากล"

พร้อมยกตัวอย่างว่า มาตรา 16 ระบุให้ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือการเอาผิดจากการเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่นในมาตรา 15 เป็นการสร้างวินัยให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ และมุ่งแก้ปัญหาการบังคับใช้ กม.ฉบับเดิมที่ไม่สามารถใช้มาตรา 5 และมาตรา 7 ลงโทษคนผิดได้ เพราะระบุว่า ต้องเป็นการเข้าถึงข้อมูลที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงเท่านั้น

"การแก้ไข พ.ร.บ.นี้ เป็นการผลักดันเพื่ออนาคต กว่าจะแก้ไขเสร็จ เทคโนโลยีก็เปลี่ยนไปอีกเยอะ ยังมีบริบทอื่นที่ต้องคำนึงถึง จึงไม่ควรมอง แต่เฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง ต้องนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมและความปลอดภัยสาธารณะ"

นางสุรางคณากล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงไอซีทีได้ส่งร่าง พ.ร.บ.ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีบรรจุเป็นวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เพื่อให้ ครม.พิจารณาก่อนส่งต่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา รายละเอียดของแต่ละมาตรา เพื่อส่งกลับให้ ครม. นำเข้าสู่สภานิติบัญญัติ ต่อไป คาดว่าต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าจะประกาศใช้ได้

รีทวิตเสี่ยงละเมิดลิขสิทธิ์

ด้านนายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ อดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณายกร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 แสดงความเห็นว่า ร่างฉบับนี้เขียนขึ้นเพื่อใช้แทนของเดิม แม้โครงสร้าง กม.คล้ายกัน แต่สาระสำคัญต่างไป เช่น ให้ตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ขณะที่องค์ประกอบอื่นเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงคล้ายศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

และยังทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ เช่น การเอาผิดกับการเข้าถึงข้อมูล หรือทำสำเนาข้อมูล ทั้งที่ไม่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง ซึ่งขัดเจตนารมณ์เดิมของ กม. และอาจเกิดการใช้ พ.ร.บ.ผิดในจุดที่ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ไม่ได้ระบุไว้ หรือแม้แต่การรีทวิตข้อความในทวิตเตอร์อาจเข้าข่ายผิด กม. รวมถึงการเผยแพร่ภาพและข้อมูลของบุคคลอื่นตามมาตรา 26 ที่กำหนดกรอบไว้กว้างมากกว่า กม.หมิ่นประมาท อาจทำให้การเผยแพร่ข้อมูล หรือรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด การคอร์รัปชั่น หรือการกระทำความผิดที่เสื่อมศีลธรรมผิดต่อ กม.ฉบับนี้ มีโทษจำคุก 3 ปี เพราะทำให้ผู้ถูกเผยแพร่ได้รับความอับอาย

บล็อกเกอร์-ไอเอสพีอ่วม

ขณะที่ น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล บล็อกเกอร์และนักวิชาการอิสระ กล่าวว่า กม.ของประเทศที่เจริญแล้วจะคุ้มครองคนกลางในการเผยแพร่ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีเจตนาสนับสนุน และยึดหลัก "ไม่เซ็นเซอร์" ยกเว้นประเด็นที่ละเอียดอ่อนของประเทศนั้น ๆ กล่าวได้ว่า ไม่มี กม.คอมพิวเตอร์ประเทศใดในโลกที่รุนแรงเท่านี้ และไม่ใช่ปัญหาแค่การเพิ่มโทษเรื่องการทำสำเนา แต่ยังมีการตั้งคณะกรรมการที่ทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องมีหมายศาล กม.นี้จึงไม่ได้มองอนาคต หรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับบล็อกเกอร์ ไปจนถึงผู้ให้บริการ อินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ต่อไปจะไม่มีใครอยากทำงานด้านไอที เพราะภาระเยอะ

"พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับเดิมก็ผิดเพี้ยนไปจากเจตนาเดิมมากแล้ว ยังร่าง กม.ใหม่ให้ครอบจักรวาล คลุมทั้งเรื่องลิขสิทธิ์ เรื่องความมั่นคง แต่ไม่แก้ปัญหาเดิม นั่นคือทักษะในการหาหลักฐานที่มีไม่มากพอ และการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ที่ไม่ชัดเจนพอจะจับคนร้ายได้ ฉะนั้น ต้องฝึกให้เก่ง ไม่ใช่แก้ กม.เพิ่มโทษเหวี่ยงแหให้ทุกคนผิดหมด ในต่างประเทศ การจัดการด้านลิขสิทธิ์ ให้เวลานำเนื้อหาที่ละเมิดลงหลังได้รับแจ้งกี่วัน หากละเว้นถึงจะมีสิทธิฟ้องร้อง ไม่ใช่ต้องมอนิเตอร์ 24 ชั่วโมง"

บีบธุรกิจมุดใต้ดิน

นางภูมิจิต ศิระวงศ์ประเสริฐ ประธานชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮสติ้ง กล่าวว่า เห็นด้วยกับการแก้ไข พ.ร.บ. แต่ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่านี้ ไม่ใช่ทำแบบงุบงิบ มีการส่งจดหมายเชิญให้ไปประชุมล่วงหน้า 3 วัน ร่างก็ได้อ่านในวันประชุม ทั้ง ๆ ที่เป็นทั้งเรื่อง กม. และเทคนิคที่ต้องใช้เวลาศึกษา

"ประชุมแค่ไม่กี่คน ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ประธานก็แจ้งว่าไม่ต้องกังวล จะมีการปรับแก้ร่างใหม่ อาจไม่เหมือนเดิม แต่จนวันนี้ก็ยังไม่เคยเห็นแม้แต่รายงานการประชุม เนื้อหาของ กม.หากบังคับใช้จริง จะทำลายระบบธุรกิจนี้ รวมถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศ ผู้ประกอบการจะเลือกไปตั้งโฮสติ้งในต่างประเทศใช้โอนเงินซื้อขายออนไลน์ เพื่อไม่ต้องรับภาระความเสี่ยงจากการติดคุกจาก พ.ร.บ.นี้ กรมสรรพากรก็ไม่ได้ภาษี ธุรกิจจะมุดลงใต้ดิน เพราะปลอดภัยกว่า เจ้าหน้าที่ตามจับอาชญากรได้ยากขึ้น จับได้แต่เด็กไม่รู้เดียงสา"

นอกจากนี้ ผู้ใช้คอมพิวเตอร์อาจผิดได้โดยไม่รู้ตัว เพราะเทคโนโลยีทุกวันนี้ แค่เปิดหน้าเว็บไซต์ก็มีไฟล์โหลดลงเครื่องอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้ทุกคนเสี่ยงผิดมาตรา 16 คือคัดลอกสำเนาข้อมูลผู้อื่น ขณะที่ผู้ให้บริการตั้งแต่โฮสติ้ง, ไอเอสพีถือว่าทำผิดและมีโทษสูงกว่าเป็นเท่าตัว


บันทึกการเข้า

ไม่รับตอบปัญหาทาง PM  ไม่ต้องขอโปรแกรมทุกชนิดทาง PM

หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP

Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
SimplePortal 2.3.5 © 2008-2012, SimplePortal | Thai language by ThaiSMF

SMFAds for Free Forums
© Copyrights 2010 navthai.com mod by trex_ln
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.132 วินาที กับ 44 คำสั่ง