14 พฤษภาคม 2024, 20:20:42 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เว็บบอร์ด   ช่วยเหลือ ซื้อขายสินค้า Shop เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ:  มานับอายุ(ขัย)ของยางกันเถอะ โดย Manager online.com  (อ่าน 3560 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
^SuRaYoOt^
Global Moderator
***


สูงต่ำอยู่ที่เราทำตัว ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
ID number: 6
กระทู้: 14423
$3658.87 credits

View Inventory
Send Money to ^SuRaYoOt^

Referrals: 0
คำขอบคุณ
-ได้ให้: 1788
-ได้รับ: 69258



พลังชีวิต
0%


« เมื่อ: 17 กันยายน 2009, 12:11:22 »


ความสำคัญของ   \"ยางรถยนต์\"   นั้นขอบอกว่าไม่แพ้กับชิ้นส่วนอื่นๆ  ที่ประกอบขึ้นมาเป็นรถ   1   คันเลย   เพราะนอกจากจะช่วยให้รถขับเคลื่อนไปได้แล้ว  ยังช่วยในระบบการเบรกเมื่ออยู่ในถนนที่มีสภาพที่ลื่นหรือขรุขระ   ยางที่ดีนั้นจะต้องมีคุณสมบัติในการช่วยให้ผู้ขับขี่มีความนั่นใจและลดการกระแทก   ผู้ใช้รถหลายคนลืมที่จะให้ความสำคัญกับยาง  แต่กลับไปเน้นที่น้ำมันหรือเครื่องยนต์จนลืมนึกถึงความสำคัญของยาง  ที่เรียกได้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายตลอดเวลาการใช้งาน
     ผลการวิจัยพบว่าเนื้อยางนั้นจะมีการยืดตัวไปมานับเป็นล้านๆ  ครั้งขณะที่กลิ้งตัวไปตามถนนจนกว่าจะหมดสภาพการใช้งาน ตัวอย่างเช่น  ยางขนาด   185/70   R13   หากวิ่งด้วยความเร็ว   130   กม./ชม.   จะต้องหมุนถึง   20   รอบ/วินาที   นั่นแสดงว่าการออกแบบและการผลิตยางแต่ละเส้นนั้นได้มีการนำองค์ประกอบต่างๆ  โดยเฉพาะเรื่องความทนทานและอายุการใช้งาน  เข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย               
     โดยทั่วไปแล้ว   อายุของยางรถยนต์จะเริ่มตั้งแต่วันแรกที่ไปใช้งานจริง   หรือติดล้อวิ่งไม่ใช่จากวันเดือนปีที่ผลิตเหมือนอย่างอาหารหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ  และหากพิจารณาถึงการสิ้นสุดของการใช้งานแล้วล่ะก็   ให้พิจารณาจากความสึกหรอของดอกยาง   ซึ่งดูจากสะพานยางที่อยู่ระหว่างร่องดอกยาง   ที่มีความสูงประมาณ   1.6   มิลลิเมตร   หากพบว่าดอกยางมีอัตราการสึกจนถึงระดับนี้แล้ว  แสดงว่ายางเส้นนั้นหมดอายุและควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่เพื่อความปลอดภัย  อย่างไรก็ดี   หากคุณต้องการให้การขับขี่อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น   ในสภาพการขับขี่ที่มีฝน   ขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทุกครั้ง   เมื่อตรวจสอบพบว่าการสึกหรอ ลึกประมาณ   3.5   มิลลิเมตร       
     สำหรับยางที่ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้งานนั้น   สามารถเก็บได้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า  3  ปี   (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาจากคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิต)   ก่อนนำไปติดล้อวิ่งจริงซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก  จนกระทั่งผู้ขับขี่ไม่จำเป็นที่ต้องให้ความสนใจในการตัดสินใจซื้อยาง   แต่ก็ควรให้ความสำคัญกับการเลือกยางรถยนต์ให้ถูกกับการใช้งาน   ยี่ห้อที่ไว้ใจได้และมีการดูแลยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยที่แท้จริง               
     นอกจากนี้หากว่าต้องการยืดอายุการใช้งานของยางให้มากขึ้นเราก็มีเคล็ดลับมาให้ท่านผู้อ่านลองทำตามดู               
     1   ควรตรวจสอบลมยางเป็นประจำทุก   2   สัปดาห์   หรือทุกครั้งก่อนการเดินทางไกล   ให้มีความดันลมยางที่เหมาะสม   (ควรทำเมื่อยางอยู่ในอุณหภูมิปกติ)   นอกจากนั้นควรตรวจสอบความดันลมยางของยางอะไหล่   และควรอ้างอิงความดันลมยางจากคู่มือของบริษัทนั้นๆ       
     2   ควรเปลี่ยนวาล์วทุกครั้งที่เปลี่ยนยางเส้นใหม่   เนื่องจากความกดดันจากแรงหนีศูนย์อาจทำให้ยางลมอ่อน   ส่งผลให้ยางเกิดความเสียหายได้       
     3   การตั้งศูนย์ถ่วงล้อเพื่อปกป้องช่วงล่าง  ช่วยลดการสั่นสะเทือน   รองรับแรงกระแทก   รวมถึงระบบพวงมาลัยทำให้ยางใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น       
     4   ลักษณะการทรงตัวของรถเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีผลต่อการสึกหรอของยาง  การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยไม่ให้ลมยางอ่อน  เสื่อมสภาพเร็วและสึก 
     เก็บรักษายางอย่างไรดี?               
     1   การเก็บรักษายางของคุณให้อยู่ในสภาพที่ดีพร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอ   คุณควรทำความสะอาดยางด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง   แกะเอากรวดและก้อนหินต่างๆ   ซึ่งอาจติดอยู่ที่ดอกยางออกเสมอ               
     2  การเก็บรักษาที่ดี   ช่วยให้การใช้งานยางของคุณยาวนานมากยิ่งขึ้น       
       - หากใส่ยางเข้ากับล้อแล้ว   ควรเก็บโดยการวางราบลงกับพื้น   หรือหาที่แขวน       
       - หากยังไม่ได้ยางใส่เข้ากับล้อ   ให้เก็บยางโดยการตั้งยางไว้กับพื้น               
     3   ขอแนะนำให้ให้คุณเก็บรักษายางไว้ในที่เย็น   ไม่ควรเก็บยางไว้ในที่ที่ถูกแสงแดดโดยตรง  เมื่อทำการเปลี่ยนยางหรือสลับยางระหว่างล้อ   ควรจดจำตำแหน่งในการใส่ให้ถูกต้อง   อาทิเช่น   ควรทำเครื่องหมาย   FL  แทนสำหรับยางล้อหน้าด้านซ้าย               
     4   ในกรณีที่คุณมีรถพ่วง   หรือยานยนต์ที่มักต้องทิ้งให้จอดอยู่ในโรงรถเป็นเวลานานๆ  ขอแนะนำให้คุณเพิ่มแรงดันยางมากกว่าปกติ   อย่างน้อย   7  ปอนด์ต่อตารางนิ้ว   (0.5 บาร์)               
     **ขอบคุณข้อมูลจาก  มิชลิน**
บันทึกการเข้า

ไม่รับตอบปัญหาทาง PM  ไม่ต้องขอโปรแกรมทุกชนิดทาง PM

 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
GARMIN Trip and Waypoint Manager v.4 + Trip & Waypoint Manager V5
Custom POI
^SuRaYoOt^ 0 4534 กระทู้ล่าสุด 24 ธันวาคม 2009, 06:06:00
โดย ^SuRaYoOt^
อีกโปรแกรมที่ควรมีติดเครื่อง App Manager Pro v1.0
Android : Apps
^SuRaYoOt^ 1 5146 กระทู้ล่าสุด 23 พฤศจิกายน 2011, 13:16:34
โดย shinjang
[PC]Internet Download Manager 6.38 Build 1
Other Software (PC)
#--แกมบิท--# 9 6885 กระทู้ล่าสุด 14 พฤศจิกายน 2020, 18:34:08
โดย zapseed
Powered by MySQL Powered by PHP

Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
SimplePortal 2.3.5 © 2008-2012, SimplePortal | Thai language by ThaiSMF

SMFAds for Free Forums
© Copyrights 2010 navthai.com mod by trex_ln
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 35 คำสั่ง