ข้อความนี้เป็นบทตวามในไทยรัฐครับ "ปาย" หมดเสน่ห์" ตอน นี้ทุกคนรู้จัก "เมืองปาย" ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งใน จ.แม่ฮ่องสอน ในฐานะเป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยว
ที่จะไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ชาวเมืองปายเล่าบรรยากาศของที่นั่นว่า เมืองปายทุกวันนี้ไม่ใช่เมืองปายที่เขาต้องการ
พ่อค้าแม่ค้าพื้นเมืองหายไป ธรรมชาติที่สวยงามถูกบุกรุกทำลายจากนายทุน ร้านค้าทันสมัย บาร์เบียร์ เกสต์เฮาส์ ผุดขึ้นมากมาย
วิถีชีวิตเปลี่ยนไป วัฒนธรรมแปลกปลอมจากต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาจากนักท่องเที่ยว
ชาวต่างชาติกอดจูบกันตามที่สาธารณะ ริมถนนหนทาง
กัญชายาเสพติดยืนขายกันข้างถนนข้างเกสต์เฮาส์ นั่งสูบกันสบายอารมณ์ตามบาร์เบียร์
นักท่องเที่ยวต่างชาติมากคนขายยาเสพติดก็มีมาก รายได้ดีเสียด้วย
เมืองปายไร้การควบคุม มีการเก็บส่วยจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของข้างถนน รายละ 50-100 บาท
เจ้าของร้านเอาที่ทางเท้าหน้าร้านของตัวเองไปให้เช่า ผู้ที่เช่าไปก็เอาไปเซ้งต่อ เซ้งกันรายละ 5,000-10,000 บาท
เอาที่ทางสาธารณะไปเซ้งไปให้เช่าทำเหมือนเป็นตัวแทนเทศบาลเมืองปาย
พ่อ ค้าแม่ค้าชาวบ้านจนๆไม่มีสิทธิ์เข้าไปขายริมทางเท้าถนนคนเดิน เจ้าหน้าที่เทศบาลผ่านไปผ่านมาวางตัวเฉย
เหมือนไม่รู้ไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ฤดูท่องเที่ยวมาถึงก็ขูดรีดค่าอาหารกับนักท่องเที่ยว
ก๋วยเตี๋ยว ชามละ 25-30 บาท ขายกันชามละ 50 บาท ขนมจีนธรรมดาจานละ 20-25 บาท ขึ้นเป็น 50 บาท
ข้าวราดแกง 1 อย่าง จาก 25-30 บาท เป็น 50-60 บาท ราด 2 อย่างขึ้นไปถึง 70 บาท
ค่าเช่ารถจักรยานจาก 50 บาท เป็น 100 บาท
รถจักรยานยนต์เดิม 100-150 บาท ตอนนี้ราคา 250-300 บาท
เกสต์เฮาส์เดิมค่าเช่าคืนละ 100-250 บาท ตอนนี้ไม่มีแล้ว ต้องเป็น 800-1,500 บาท
เมืองปายมีเสน่ห์เป็นที่ชื่นชมของนักท่องเที่ยวเพราะมีธรรมชาติสวยงาม มีวัฒนธรรมที่ดี ชาวบ้านน้ำใจงาม
ตอนนี้หมดเสน่ห์แล้ว
จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ ผบก.แม่ฮ่องสอน ดูแลเมืองปาย เพื่อให้อยู่ในความทรงจำดีๆของนักท่องเที่ยว
ถ้าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยังเห็นแก่ผลประโยชน์แล้วปล่อยปละละเลย อีกไม่นานเมืองปายก็คงจะถูกลืม.
ไทยรัฐออนไลน์
* โดย เพลิงมรกต
* 19 กันยายน 2552
คอลัมน์ใน เลขที่1 วิภาวดีฯ