ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า กระทู้นี้ 18+ เท่านั้น. และไม่มีจุดประสงค์ชี้นำ หรือสนับสนุนให้มีการซื้อขายน้ำยา และ,หรือ อุปกรณ์เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าใด ๆ ทั้งสิ้น หากแต่เป็นการแสดงความคิดเห็น(ส่วนตัว)เท่านั้น.!!
บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายจริงหรือ?ถ้าตอบแบบโลกสวย หรือแบบมี "อคติ" ก็แน่หล่ะ อะไรที่ทำควันแล้วพ่นออกมาจากปากมีผลเสียกับสุขภาพแน่นนอน. แต่เพราะผมเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ หรือจะว่าผมเป็นพวกหัวรั้นก็ประมาณนั้น.
ท้าวความนิด เดิมทีเดียวผมเริ่มดูดบุหรี่จริง ๆ มาตั้งแต่อายุ 17-18 เริ่มจากเพื่อน ๆ ซื้อมาแบ่งกันสูบก่อน ตอนนั้นดูดกรองทิพ(แบ่งขาย) ส่วนสาเหตุที่สูบ
เพราะอยากลอง กรองทิพหมดบางทีก็ กรุงทอง85 ฯลฯ ซื้อมาครั้งละ 5-10 มวน
หลัง ๆ เริ่มซื้อเองเป็นซอง ๆ แล้วก็แบ่งเพื่อนด้วย. สูบมาได้ซักระยะ เริ่มไอ และรู้สึกว่าตามนิ้วมือเหม็นมาก เลยเปลี่ยนไปดูดสายฝน จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นสายเย็นตลอด จากสายฝนมาเป็น More เขียว, มาโบโรเขียว, LM เขียว และอะไรก็ได้ที่เย็น ๆ
ช่วงที่ดูดบุหรี่จริง ๆ จัง ๆ จะดูดเฉลี่ยวันละ 1-2 ซอง คือถ้าดื่ม หรือนอนดึกจะสูบมากเป็นพิเศษ สูบแล้วอิ่ม คลายเครียด เวลาตืนนอน และหลังกินข้าวเป็นช่วงเวลาที่ต้องการสูบมากสุด ผมสูบมาเกือบ ๆ 28-29 ปี.
ย้อนไป 2-3 ปีก่อนเพื่อนผมคนนึงซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบ ผมซึ่งเห็นว่ามันเป็นของแปลกเลยอยากลองบ้าง จึงไปหาซื้อมาจากแถวคลองถม โดยซื้อชุดตั้งต้น+น้ำยามา 1 ขวด. ดูดไม่กี่ครั้งก็เก็บขึ้นหิ้ง เพราะไม่หายอยาก เอาไว้แก้ขัดยามดึก ๆ ที่บุหรี่จริงหมด และขี้เกียจขับรถไปข้างนอกเท่านั้น.
ความคิดที่จะเลิดสูบบุหรี่จริง ๆ เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงเวลาที่สูบ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เลิกซะที ไม่ใช่เพราะใจไม่แข็งพอ หรืออะไรใด ๆ ทั้งสิ้น. แต่เพราะคิดว่ามันเป็นความสุขสุดท้าย จริง ๆ คือเลิกมาหลายอย่างแล้ว ทั้งเที่ยวกลางคืน, การดื่ม(เกือบทุกวัน) อันนี้แหละความสุขสุดท้าย.
และในที่สุดวันที่ต้องเลิกขาดจากบุหรี่จริง ๆ ก็มาถึง. วันที่บุหรี่ขึ้นราคา จาก มาโบโร 7.1 ที่ 57 บาท มาเป็น 75 บาท. ไม่ใช่เพราะแพง หรือเสียดายเงิน แต่เพราะเบื่อประเทศสาระขัน ที่อ้างว่า เพื่อให้คนเลิกสูบมากขึ้น เลยใช้วิธีขึ้นราคา, ไม่อยากให้คนในประเทศโดนมอมเมาด้วยอบายมุข แต่ขายหวย,
หนังสือปลุกใจ sextoy การแต่งกายวาบหวิว การค้าประเวณีเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ขัดกับวัฒนธรรมอันดีงาม แต่อาบอบนวด หรือนวดกระปู๋เต็มบ้านเต็มเมือง.
นั่นแหล่ะจึงทำให้ผมหันกลับมามองบุหรี่ไฟฟ้าอีกครัง. แต่การกลับมาครั้งนี้ เป็นการกลับมาแบบตั้งใจจริงจัง เลยต้องหาข้อมูลก่อน.
1. ศึกษาข้อดี และข้อเสียของบุหรี่จริงและบุหรี่ไฟฟ้าก่อน โดยการอ่านบทความจากทั้งใน และนอกประเทศ(อันนี้อ่านเยอะกว่า เพราะบทความจากประเทศสาระขันจะอ่านน้อย ๆ เอาที่มีสาระและเหตุผลเท่านั้น เนื่องจากมีความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะ)
2. ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยามาลอง หลาย ๆ ตัว จนรู้สึกว่าเราเหมาะกับอะไร(อันนี้สิ้นเปลืองมากกว่าจะเข้าที่)
สรุปสั้น ๆ จากที่เปลี่ยนมาดูดบุหรี่ไฟฟ้า ได้สักพักใหญ่ ๆ ดังนี้.
1. ข้อดี หายใจได้ลึกขึ้น การจามตอนเช้า ๆ เพราะภูมิแพ้น้อยลง เสมหะที่ข้นเหนียว ลดลงจนแทบไม่มี อาการไอจากการระคายคอ น้อยลงจนแทบไม่มีเลย. นั้งสูบในบ้านได้ ในห้องแอร์ได้ เพราะไม่เหม็น ไม่มีควันมือสองไปทำร้ายใคร. ไม่มีทาร์, น้ำมันดินไปห่อปอด. ลูกเมียไม่รังเกลียดเหมือนบุหรี่จริง เพียงแต่บอกว่า ถ้าเลิกทุกอย่างเลย ทั้งบุหรี่จริง-ไฟฟ้า จะดีมาก. คริ ๆ
2. ข้อเสีย เปลืองเงินมากกว่าบุหรี่จริง(บางคนอาจจะประหยัดได้มากกว่า ถ้าไม่ลองโน่นนี่นั่นอย่างผม) เพราะตั้งแต่เปลี่ยนมาดูดบุหรี่ไฟฟ้า หมดเงินไปไม่น้อยกว่า 20,000 บาท. แต่ในระยะยาวน่าจะคุ้มค่าครับ.
ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ไม่ได้สนับสนุนให้ใครมาสูบนะครับ สิ่งเสพติดทุกชนิดล้วนมีโทษ ไม่มากก็น้อย แต่ที่ผมเขียนมานี่เพราะต้องการทราบว่า มีสมาชิกเว็บเราท่านใดบ้างที่สูบไฟฟ้า และมีความคิดเห็นเป็นเช่นใร.ขอบคุณครับ.