๒๘ ธันวา "วันกตเวทิตาไทย"
โดย เปลว สีเงิน จาก นสพ.ไทยโพสท์ ฉบับ 28 ธันวาคม 2553 - 00:00
ภาพจาก
http://www.e....php?id=4809 เมืองไทยไม่เหมือนรัสเซียเกือบทุกด้านอยู่แล้ว แต่ด้านหนึ่งที่ "ไม่เหมือนกันเลย" ก็คือ รัสเซียนั้น เราหันไปทางไหน จะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม เป็นต้องเจอรูปปั้นคนสำคัญในประวัติศาสตร์ชนิดทั้งตัวบ้าง แค่ศีรษะบ้าง ปักบ้าง ตั้งบ้าง เสียบไว้เฉยๆ บ้างทั่วไปทุกแห่งและทุกถนนก็ว่าได้ จนมีคนพูดกันว่า "อิฐทุกก้อน" ในรัสเซียคือศิลาจารึก ส่วนบ้านเรา สิ่งที่เรียกว่าอนุสาวรีย์ก็มีเหมือนๆ กัน เพียงแต่ไม่มากมายระก่ายเกะเหมือนเขาเท่านั้น
อนุสาวรีย์เพื่อการรำลึกถึงพระคุณยิ่งใหญ่ของบุคคลในประวัติศาสตร์ชาติไทยแห่งแรกที่ผมได้เห็น ก็คือ "พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ที่วงเวียนใหญ่
วงเวียนใหญ่นั้น ช่างใหญ่โตมโหระทึกสมกับชื่อวงเวียนใหญ่ที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหนจะใหญ่เท่านี้มาก่อน ตื่นตะลึง ใจเต้นตุ๊บตั๊บไม่เป็นส่ำ เพราะเป็น "ครั้งแรก" ของชีวิตที่ได้มากรุงเทพฯ โดยนั่งรถไฟจากแม่กลองมาลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ พอลงปุ๊บ มองฝ่าความมืดตอนทุ่มกว่าไปก็เห็น
"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ทรงชูดาบเป็นเงาวะวับอยู่ในความมืดเสียดฟ้า!
มาเมืองกรุง ไม่มีคนเมืองกรุงคนแรกให้รู้จัก แต่ได้มี "พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ให้รู้จัก ที่รู้จักและจำชัดว่า...ใช่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพราะโรงเรียนวัดบางจะเกร็ง ย่านดอนหอยหลอด ที่ปากอ่าวแม่กลอง ครูท่านสอนประวัติศาสตร์ให้ผม และผมก็เคยเห็นรูปในหนังสือ
และวันนี้-ที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ นับย้อนไปเมื่อ ๒๔๒ ปี แห่งกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ด้วยพระชนมพรรษา ๓๔ พรรษา ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ พร้อมทั้งสถาปนากรุงธนบุรีให้เป็นราชธานีแทนกรุงศรีอยุธยาที่ล่มสลาย ทรงพระนามว่า "สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์" หรือ พระบรมราชาที่ ๔
วันนั้นเมื่อ ๒๔๒ ปีล่วงมาแล้ว ตรงกับวันที่ ๒๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๓๑๑ และ ๒๘ ธันวาคม วันนี้ กับของทุกๆ ปี ด้วยสายเลือดที่ไม่ลืมพระคุณบรรพชน เหล่าลูกหลานกตัญญูต่างรู้คุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ในการกอบกู้บ้านเมืองไทย ที่แหลกละเอียดเป็นประจักษ์ให้กลับมาหลอมรวมเป็นหยกเนื้อดี "เนื้อไทย-แผ่นดินไทย" ให้ลูกหลานได้อยู่สบายถึง ณ วันนี้ และวันข้างหน้าตลอดกาล-ตลอดไป
๒๘ ธันวา.....
วัน "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงนั่งเมือง" จึงเป็นวันลูกหลานไทยกตัญญูทั้งมวล ขอน้อมเศียรจรดปฐพีคารวะด้วยระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณยิ่งใหญ่ของเสด็จพ่อ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเจ้า" ถ้าแผ่นดินนี้ไม่มีซึ่ง "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" แล้วไซร้
"ประเทศไทย-คนไทย" จะไม่มีอยู่ในแผนที่โลก!
ณ ศตวรรษนี้ คนไทยถือว่าเจริญแล้ว โดยเฉพาะการศึกษา ฉะนั้น ผมคิดว่าทุกคนอ่านแผนที่ประเทศไทยออก ดูแผนที่ประเทศไทยเป็น จึงไม่จำเป็นต้องบอกขอบเขตขัณฑสีมาไทยให้บรรดาปราชญ์และราชบัณฑิตทั้งหลายได้ทราบ จะเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขยายสวนเสียเปล่าๆ
ดังนั้น ผมขอเอาขอบเขตแห่งราชอาณาจักรไทย หรือพูดง่ายๆ ว่า ขอเอาแผนที่ประเทศไทย ในแผ่นดิน "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" มาให้ดูกันว่า ประเทศไทยเมื่อ ๒๔๒ ปีที่ผ่านมา กับประเทศไทยปัจจุบัน ยิ่งใหญ่-เล็กลีบ ต่างกันขนาดไหน?
ในการกู้ชาติของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นอกจากปราบก๊ก-แก๊งที่แยกแผ่นดินแล้วตั้งตนเป็นใหญ่ยามอยุธยาล่มสลาย สมเด็จพระเจ้าตากฯ ทรงมุ่งมั่นด้วยพระราชปณิธานเพื่อบ้านเมืองปึกแผ่น-สามัคคี ใช้เวลา ๓ ปี รวบรวมแผ่นดินที่แตกให้กลับเป็น "ราชอาณาจักร"
พร้อมทั้งกำราบปราบปรามประเทศข้างเคียงที่ฉวยโอกาสรุกล้ำ-ซ้ำเติม แล้วตีขยายอาณาเขตที่เรียกว่า "แผ่นดินไทย" ออกไปทุกด้าน ดังนี้
- ทิศเหนือ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ อยู่ในแผนที่ประเทศไทย
- ทิศใต้ กลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี อยู่ในแผนที่ประเทศไทย
- ทิศตะวันออก ลาว เขมร ฝั่งแม่น้ำโขงจรดเวียดนาม อยู่ในแผนที่ประเทศไทย
- ทิศตะวันตก เมาะตะมะ ทวาย มะริด ตะนาวศรี อยู่ในแผนที่ประเทศไทย
พระมหากษัตริย์ไทยที่นักเขียนประวัติศาสตร์บางท่านกล่าวว่า "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่อาภัพนัก ประวัติศาสตร์บรรทัดสุดท้ายของพระองค์ ตราบ ณ วันนี้ยังจบแบบหมดจดลงตัวกันไม่ได้ในความเป็นไปสู่เส้นทาง "เปลี่ยนแผ่นดิน"
ทรงเหนื่อยยาก-ตรากตรำ-กรำศึกทั้งชีวิต คำว่าสุขนั้นคืออะไร อยู่ที่ไหน คล้ายว่าพระองค์ไม่ทรงรู้จัก และไม่เคยสัมผัส พระองค์เกิดมาเพื่อ "พลีเลือดเนื้อให้แผ่นดืน" โดยแท้ ปราสาทราชวังทองสำหรับพระองค์ ดูเหมือนจะเป็น ป่า เขา ลำเนาไพร ค่ายทหาร และความเป็น-ความตายในสมรภูมิมากกว่าสนิทเสน่หาในเวียงวัง
๑๕ ปี จะเรียกว่าครองราชย์ หรือจะเรียกว่าทรง "ครองเลือด" เพื่อกอบกู้ชาติให้ลูกหลานไทย ผมคิดว่าแต่ละใจท่านมองเห็น และด้วยพระชนมพรรษาเพียง ๔๘ พรรษา "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ของพวกเราชาวไทยทุกคนก็สวรรคตไปด้วยเหตุตามบรรทัดประวัติศาสตร์ที่ใจคนไทยยังไม่ยอมรับสนิทนัก!
จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่อาภัพ หรือจะทรงเป็นมหาราชที่โลกลืมก็ช่างเถิด ที่แน่ชัดคือ.....
พระองค์สถิตประทับอยู่ในสายเลือดระลึกรู้ของลูกหลานไทย ใจกตัญญูลูกหลานไทย ขอถักทอเป็นที่รองบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระองค์นี้ ตลอดไป ในทุกภพ-ทุกชาติ
อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์ เฉลิมพระบรมราชกฤดาภินิหารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระองค์ผู้เป็นมหาวีรบุรุษของชาติไทย
ประสูติ พ.ศ.๒๒๗๗ สวรรคต พ.ศ.๒๓๒๕
รัฐบาลไทยพร้อมด้วยประชาชนชาวไทยได้ร่วมกันสร้างขึ้นประดิษฐานไว้เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๗
เพื่อเตือนใจ ให้ประชาชนชาวไทย รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงเพียรพยายามปราบปรามอริราชศัตรู
กอบกู้เอกราชของชาติไทย ให้กลับคืนดำรงอิสรภาพสืบมา.
นี้คืออักษรสลัก ณ ฐานพระราชานุสาวรีย์ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ที่วงเวียนใหญ่ ถ้าท่านไปก็อย่าลืมแหงนหน้าขึ้นอ่านกันนะ พระบรมราชานุสาวรีย์นี้ ท่านอาจารย์ศิลป์ พีระศรี "บิดาแห่งศาสนาศิลป์" ผู้ให้กำเนิดมหาวิทยาลัยศิลปากรตราบวันนี้เป็นผู้ออกแบบ และร่วมปั้นกับศิษย์ของท่าน
ที่ว่า "รัฐบาลไทยพร้อมด้วยประชาชนชาวไทยได้ร่วมกันสร้างขึ้น" นั้น เป็นความจริง คือรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ให้ปั้นพระบรมรูปจำลองขึ้น ๗ แบบ แล้วนำไปตั้งในงานฉลองรัฐธรรมนูญ ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนเป็นผู้เลือกว่าจะเอาแบบไหน ใครชอบแบบไหนก็ให้เอาสตางค์แดงหยอดลงไปในหีบใต้พระบรมรูปจำลองนั้น ๑ เหรียญ
พระบรมรูปจำลองที่ประชาชนเลือกจากการเปิดหีบทั้ง ๗ นับสตางค์แดง ปรากฏว่าพระบรมรูปจำลองที่เป็นองค์จริง ณ วงเวียนใหญ่เวลานี้ ชนะเป็นที่ ๑ ด้วยคะแนนสูงสุด ๓,๙๓๒ เหรียญทองแดง!
บัดนี้ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ทรงเสร็จภารกิจกอบกู้แผ่นดินให้ลูกหลานไทย และทรงคืนกลับสู่แดนอันเป็นทิพยสถานแห่งเทพด้วยกาล ๒๔๒ ปีมนุษย์แล้ว และวันนี้ ถ้าลูกหลานจะกตัญญูให้ชื่นใจ ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก
แค่ไม่เนรคุณ ด้วยทำวุ่นต่อชาติ
แค่นั้นก็ได้ชื่อว่า กตเวทิตาคุณกับพ่อ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" แล้ว!
จาก
http://www.t...281210/32155