ที-เร็กซ์

[POMPALM]

พอดีเมื่อเช้าขับรถ เปิด igo8 บันทึก track เก็บไว้ ถูกรถปาดหน้าเบรคกระทันหัน แต่เบรคทัน เลยเกิดความคิดว่า ถ้ามีอุบัติเหตุ หรือถูกใบสั่งข้อหาขับรถเกินกำหนด จะใช้ ไฟล์ track ในเครื่องเป็นหลักฐานได้ใหม ศาลจะยอมรับฟังหรือเปล่า  เพราะเก็บทั้งเวลา ตำแหน่ง และความเร็ว ทิศทาง ในขณะเดินทาง รบกวนผู้รู้ด้วยครับ อีก 2 วัน จะถึงสงกรานต์แล้ว อาจเป็นประโยชน์ต่อคนที่คิดจะเดินทางไกลๆ...

[ที-เร็กซ์]

ขอตอบในฐานะผู้ที่ไม่ได้เรียนกฏหมาย แต่เคยมีกิ๊กเป็นทนายดังนี้ครับ.

อาจใช้เป็นหลักฐานได้ครับ แต่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญทางด้าน GPS และ Track ไปด้วย. เพราะหลักฐานดังกล่าวอาจไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้เชื่อได้ หรือเชื่อถือไม่ได้ครับ เพราะหลักฐานแบบนี้จับต้องไม่ได้ครับ หลักฐานที่เป็นข้อมูล สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ มันจะมีน้ำหนักพอหรือ?? ถ้าเราเป็นโจทย์ อัยการจะรับเอา data เป็นหลักฐานให้เราหรือ?? ถ้าเราเป็นจำเลย มันจะฟังขึ้นหรือเปล่า ถ้าเราอ้างหลักฐานประเภทที่สามารถสร้างขึ้นเองได้ และจับต้องไม่ได้.

ขณะเกิดเหตุต้องมีทั้งหลักฐาน และพยาน เกิดเหตุปุ๊บต้องแสดงหลักฐาน และพยานต่อหน้าเจ้าพนักงาน เพื่อถ่ายภาพ และทำหลักฐาน ลงบันทึกประจำวันทันที ถึงจะเอาไปอ้างอิงในศาลได้ ถ้าไม่ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานก็หมดสิทธิ์ แล้วเจ้าพนักงาน (จรวจ) นั่นน่ะ จะเข้าใจ และยอมรับเอา GPS หรือ Track ของเราลงบันทึกประจำวันหรือเปล่า ??

เป็นโจทย์ อัยการก็ไม่สนใจหลักฐานประเภทนี้ เป็นจำเลย ทนายก็ไม่สนใจหลักฐานแบบนี้. หน้า พยาน หรือ วัตถุพยานอย่างอื่นดีกว่าครับ

[POMPALM]

ชอบใจตรงนี้ครับ
"แต่เคยมีกิ๊กเป็นทนาย"
สงสัยต้องหามาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวบ้างซะแล้วครับ

สำหรับ trk เดี๋ยวจะลองไปปรึกษานิติกร ของสำนักงานดูครับ...

[Pega]

เห็นด้วยกับคุณเร็กซ์ครับ หลักฐานที่จะใช้ได้ในบ้านเรา คือ พยานวัตถุ และ พยานบุคคล เท่านั้น ถ้าเป็น ภาพจาก CCTV อันนี้คงไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้าจะเอา track log จาก GPS ประกอบเพื่อกรณี อุบัติเหตุ ผมก็ว่าไม่มีท่าน ที่ไหนสนใจหรอกครับ เพราะเหตุผลหลาย ๆ อย่างเช่น อาจทำขึ้นเองก็ได้ หรือ ไม่ท่านก็ดูไม่เป็น ก็ไม่ดูดีกว่า เดี่ยวจะปล่อยไก่ซะเปล่า ๆ  หลักฐานอุบัติเหตุ บ้านเรา มีไม่กี่อย่างหรอกครับ  พยานบุคคล  รอยเฉี่ยวชน รอยเบรค แล้วก็พ่นสี แสดงตำแหน่งและทิศทางรถคู่กรณี

สำหรับความคิดผม ถ้ารถบ้านเรา ทุกคันถูกบังคับทำประกันภัยเหมือนต่างประเทศ เวลามีอุบัติเหตุ ก็ไม่ต้องหนี คนถูกชนก็ไม่ต้องกลัวคนชนจะไม่มีตังค์จ่ายค่าซ่อม พอมีอุบัติเหตุก็ไม่ต้องมาเถียงมาทะเลาะกัน ใครถูกก็ว่าถูก ใครผิดก็ว่าผิด ประกันก็ซ่อมไป  ส่วนเรื่องขับเร็วเกินกำหนดนั้น ยิ่งยากที่จะโต้แย้งครับ เพราะถ้าเขาจะเอา ก็หาเหตุอื่น ๆ มาเอาจนได้ ผมเองเคยโดนเรียก ในข้อหาขับช้า กีดขวาง ช่องขวา ในขณะที่ใช้ความเร็ว 90 แซงรถบรรทุกประมาณ 10 กว่าคัน แล้วไปเจอด่านพอดี  ผมยังถามเลยว่าถ้าให้ผมขับเร็วกว่านี้เพื่อแซงให้เร็ว พอผมเกิน 90 แล้ว ตำรวจจะจับผม ข้อหาความเร็วเกินหรือเปล่าล่ะ ทำเอา ตำรวจอึ้งไปเหมือนกัน สุดท้ายก็ปล่อย แต่ก็ว่าส่งท้ายมาว่า วันหลังแซงให้เร็ว ๆ กว่านี้หน่อยนะ   

[^SuRaYoOt^]

ผมว่าใช้ไม่ได้หรอกครับ เพราะเอาง่าย ๆ เลย GPS นี่เราก็สามารถแก้ไข เปลี่ยนวันที่เวลาได้ ง่าย ๆ
ทำให้ดูแล้ว อาจเป็นหลักฐานที่ไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ครับ

ไหนจะตอนเกิดเรื่องเราคงไม่ได้สนใจเจ้า GPS สักเท่าไหร่หรอกครับ
ถึงเวลานั้น จะเก็บข้อมูลจาก GPS คงไม่ได้เท่าไหร่ครับ 

[cheang_ky]

ขออนุญาตแสดงความเห็นเพิ่มเติม
ด้วยความเคารพต่อความเห็นของทุก ๆ ท่าน
ผมเห็นว่า ขึ้นอยู่กับการใช้ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล ความสำคัญของพยานหลักฐานมีดังนี้
ประจักษ์พยาน เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ พยานที่เห็นเหตุการณ์โดยตรง
พยานเอกสาร กรณีคดีเกี่ยวกับอุบัติเหตุคงไม่มีเอกสารอะไร นอกจากเกี่ยวกับการยินยอมรับผิด การชดใช้ค่าเสียหาย ทำนองนั้น
วัตถุพยาน คือ รอยของที่เกิดเหตุ รอยเบรค รอยเฉี่ยวชน กรณีนี้อาจถ่ายภาพมาเสนอต่อศาล หรือมีการตรวจพิสูจน์โดยกองพิสูจน์หลักฐานมาทำความเห็นประกอบ
พยานแวดล้อม ชื่อก็บอกแล้วว่า เป็นพยานจำพวกที่ใช้ประกอบการพิจารณา ไม่ใช่หลักฐานโดยตรง
เครื่องบันทึก GPS ก็น่าจะอยู่ในลักษณะของวัตถุพยานที่เป็นลักษณะพยานแวดล้อม คือใช้เป็นหลักฐานในการประกอบคดีได้ แต่น้ำหนักที่จะนำมาพิจารณาน้อย
วิธีการอ้างอิง GPS ประกอบคดี ก็จะเป็นลักษณะคล้ายกับภาพวงจรปิด ภาพวีดีโอ แหละครับ
คือ ใช้ภาพเป็นหลักฐานประกอบ โดยมีการนำพยานบุคคลเบิกความอธิบาย เช่น บุคคลที่นั่งไปในรถด้วยขณะเกิดเหตุ อธิบายเบิกความต่อศาลว่า คนขับได้มีเครื่อง GPS สามารถบันทึกการเดินทางได้ ก่อนเดินทางได้เห็นคนขับบันทึกไว้ หลังเกิดเหตุก็ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานไม่ได้นำมาใช้อีกเลย แล้วก็ต้องอธิบายหลักการทำงานคร่าว ๆ ให้ศาลเข้าใจด้วยว่า มันดูอย่างไร รถมาทางไหน อาจนำภาพมา capture อธิบายประกอบด้วยก็จะดี
สรุปก็คือ ใช้เป็นหลักฐานได้ แต่ทนายต้องมีวิธีการที่นำสืบต่อศาลให้ศาลเข้าใจ
          ทุกอย่างหากเกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อคดี สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ อยู่ที่กึ๋นของทนาย แต่ที่แน่ ๆ เอาให้ตำรวจ ตำรวจไม่สนใจแน่นอน เพราะยุ่งยาก ดูไม่เป็น ขี้เกียจหาความรู้ ยังไม่แพร่หลาย ทำไปก็ไม่ใช่คดีดังที่เอาเป็นผลงานได้ ลองลูกนายกรัฐมนตรีมี GPS ติดรถแล้วโดนชนซิครับ รับรอง ตำรวจรีบให้ข่าวว่า GPS บันทึกเป็นหลักฐานได้แน่นอน

[Pega]

เสริม อีกนิดครับ อย่าลืมว่า GPS ที่เราใช้กันในทุกวันนี้ มี error มากพอสมควร ตั้งแต่ 10-50 เมตร โดยประมาณ อาจมากกว่านั้นอีก โดยขึ้นกับสภาพการรับสัญญาณในขณะนั้น ว่าได้มากหรือน้อยดวง  ซึ่งถ้าเอา้ข้อด้อยนี้ มาแสดงในศาล อาจทำให้ ข้อมูลจาก GPS ไม่น่าเชื่อถือ เพราะแค่ระยะผิดไปซัก 3-5  เมตร อาจทำให้รูปคดีเปลี่ยนไปได้ จากมาทางซ้าย อาจกลายเป็นทางขวา อยู่ทางตรง จะกลายเป็นออกจากซอย อะไรทำนองนี้ครับ

 

[cheang_ky]

เสริม อีกนิดครับ อย่าลืมว่า GPS ที่เราใช้กันในทุกวันนี้ มี error มากพอสมควร ตั้งแต่ 10-50 เมตร โดยประมาณ อาจมากกว่านั้นอีก โดยขึ้นกับสภาพการรับสัญญาณในขณะนั้น ว่าได้มากหรือน้อยดวง  ซึ่งถ้าเอา้ข้อด้อยนี้ มาแสดงในศาล อาจทำให้ ข้อมูลจาก GPS ไม่น่าเชื่อถือ เพราะแค่ระยะผิดไปซัก 3-5  เมตร อาจทำให้รูปคดีเปลี่ยนไปได้ จากมาทางซ้าย อาจกลายเป็นทางขวา อยู่ทางตรง จะกลายเป็นออกจากซอย อะไรทำนองนี้ครับ

 

เห็นด้วยครับ ก็เป็นทางแก้ของอีกฝ่าย ที่ต้องศึกษาและนำสืบต่อศาลอ้างอิงว่า มันมีข้อผิดพลาด จากการคำนวณ แต่ความผิดพลาดดังกล่าว เป็นข้อเท็จจริงสำคัญต่อเหตุการณ์ในคดีที่เกิดขึ้นหรือไม่ เช่น อาจผิดพลาดเฉพาะตำแหน่ง แต่ทิศทางยังถูกต้อง หรือความเร็วยังถูกต้อง เช่นนี้ก็สามารถนำมาใช้ได้อยู่ครับ

[nomneow]

เดี๋ยวนี้มีกล้องบันทึกภาพ ขณะขับรถ บันทึกด้วย SD Card ผมนำเข้ามาจากไต้หวัน อันนึง 2500 - 3000 ขึ้นอยู่กับสเปค
เห็นที่โน่นเค้าบังคับ ให้ติดกันทุกคัน ม่ายงั้นเวลาเคลมประกัน จะเคลมไม่ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้นำมาขายครับ
ดูแล้วเมืองไทยคงไม่มีใครใช้ ลองใช้ดูแล้วก็โอเค เวลาขับไปมันจะบันทึกตลอด พอครบ 7 วัน มันก็บันทึกทับไฟล์แรก วนกันไปเรื่อยๆ
ใครสนใจ ผมเห็นมีเจ้านึงนำเข้ามาขายอยู่ ในงานมอร์เตอร์โชว์ แต่จำชื่อร้านไม่ได้ เค้าแอบอยู่มุมเล็กๆ อันนี้น่าจะใช้เป็นหลักฐานได้ดีกว่า