ใครใช้ Iphone ต้องอ่าน !!!!!!!

iPhone Battery
เพียงใส่ใจในรายละเอียดอีกนิดจะช่วยยืดเวลาการใช้งานและช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ใน iPhone ของคุณได้ไม่น้อย ที่สำคัญที่สุดคืออย่าลืม iPhone ของคุณให้ถูกแสงแดดโดยตรงหรือลืมไว้ในรถที่จอดอยู่กลางแดดนานๆ ความร้อนจะทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ใน iPhone ของคุณลดลงไปอย่างมาก

ทำความรู้จักกับคำศัพท์บางคำกันก่อน
"เวลาในการใช้งาน" หมายถึง ช่วงเวลาที่คุณใช้งาน iPhone ของคุณก่อนที่จำเป็นต้องนำไปชาร์จไฟ และ "อายุการใช้งาน" หมายถึง ช่วงเวลาที่คุณใช้งานแบตเตอรี่ของคุณทั้งหมดก่อนที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ชุดใหม่

iPhone Temperate Zone.
iPhone ของคุณทำงานได้ดีที่สุดในสภาพอุณหภูมิตั้งแต่ 32 ถึง 95องศาฟาเรนไฮนต์ สถานที่สำหรับจัดเก็บเครื่องควรมีอุณหภูมิอยู่ในช่วง -4 ถึง 113องศาฟาเรนไฮนต์ หรือ 0 ถึง 35 องศาเซลเซียส และจะดีที่สุดหากสามารถรักษา iPhone ของคุณให้มีอุณหภูมิใกล้เคียงอุณหภูมิห้อง (22 องศาเซลเซียส) มากที่สุด

คอยสังเกตสถิติการใช้งาน
หากคอยหมั่นสังเกตการใช้งาน iPhone และรู้ว่าแบตเตอรี่ของคุณอยู่ได้นานแค่ไหนจะช่วยให้เวลาการใช้งานแบตเตอรี่ใน iPhone ของคุณยาวนานขึ้นได้ เมื่อคุณต้องการดูสถิติการใช้งาน iPhone ของคุณก็เพียงแตะที่แอปพลิเคชั่น Settings ที่หน้า Home แล้วเลือก Usage ในหัวข้อ "Time since last full charge" คุณจะพบรายการทั้งสองนี้
- Usage: เป็นช่วงเวลาทั้งหมดที่ iPhone ตื่นขึ้นมาและถูกใช้งานนับตั้งแต่การชาร์จไฟให้แบตเตอรี่จนเต็มครั้งล่าสุด iPhone จะตื่นมาทำงานก็ต่อเมื่อคุณต้องการรับโทรศัพท์, ใช้ดูอีเมล์, ใช้ฟังเพลง, ท่องหน้าเว็บ, รับและส่งแมสเซส รวมไปถึงการทำงานบางอย่างอยู่เบื้องหลังเช่นการเช็คอีเมล์อัตโนมัติ
- Standby: เป็นช่วงเวลาทั้งหมดตั้งแต่เปิดสวิทซ์ iPhone ขึ้นมานับตั้งแต่การชาร์จไฟให้แบตเตอรี่จนเต็มครั้งล่าสุด รวมไปถึงช่วงเวลาที่ iPhone เข้าสู่ sleep mode

อัพเดตซอฟแวร์ให้ใหม่อยู่เสมอ
คอยตรวจสอบอยู่เสมอว่ามีชุดซอฟแวร์อัพเดตชุดใหม่จาก Apple สำหรับ iPhone ของคุณหรือเปล่า เพราะวิศวกรของ Apple ยังคงคิดค้นวิธีการใหม่ๆ เพื่อให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพียงคุณใช้งานร่วมกัน iTunes รุ่น 7.4 หรือใหม่กว่า คุณก็สามารถอัพเดตซอฟแวร์ให้ iPhone ของคุณใหม่อยู่เสมอได้ง่ายกว่าเดิม เพียงเสียบ iPhone ของคุณกับคอมพิวเตอร์ของคุณ เลือก iPhone จากรายการ Source ดูในแท็บ Summary แล้วคลิ้กที่ปุ่ม "Check for Update" เพื่อตรวจดูว่ามีซอฟแวร์สำหรับ iPhone รุ่นใหม่รออยู่หรือไม่ ถ้ามีก็คลิ้กที่ปุ่ม Update เพื่ออัพเดตได้เลย

กำหนดการทำงานให้เหมาะสม
มีความสามารถบางประการที่จะทำให้แบตเตอรี่ใน iPhone ของคุณหมดเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่นความถี่ในการเช็คอีเมล์และจำนวนอีเมล์ที่คุณรับเข้ามาเมื่อคุณกำหนดให้เช็คอีเมล์อัตโนมัติต่างก็มีผลต่อความยาวนานของแบตเตอรี่ คำแนะนำข้างล่างนี้จะช่วยยืดเวลาใช้งานแบตเตอรี่ใน iPhone ของคุณได้นานขึ้นได้

- ปรับเปลี่ยน Mail Auto-Check: ลองปิดคำสั่ง Mail auto-check หรือยืดระยะเวลาในการเช็คอีเมล์อัตโนมัติออกไปอีกหน่อย หากต้องการปิดคำสั่งนี้ให้กลับไปที่หน้า Home เลือก Settings > Mail > Auto-Check และแตะที่ Manual หรือหากต้องการยืดระยะเวลาในการเช็คก็ไปที่ Settings > Mail > Auto-Check และแตะที่ Every hour แทน การตั้งค่านี้จะมีผลกับบัญชีอีเมล์ทั้งหมดภายใน iPhone ยกเว้นบัญชี push mail ที่คุณเปิดใช้งาน push mail เอาไว้

- ปิด Push Mail: ถ้าคุณมีบัญชี push mail ขอแนะนำให้ปิดเมื่อคุณไม่ได้ใช้งาน เพียงไปที่ Settings > Mail แล้วเลือกบัญชี push mail จากนั้นแตะที่ Advanced และเปลี่ยน Use Push Mail ให้เป็น Off เพียงเท่านี้แมสเซสทั้งหมดที่ส่งมาถึงบัญชีนี้จะรับได้ตามที่คุณกำหนดไว้ใน Auto-Check แทน

- เปิด Auto-Check ให้กับบัญชีอีเมล์บางบัญชีพอ: คุณสามารถประหยัดพลังงานได้เมื่อเช็คเมล์ให้น้อยลง เพียงทำได้โดยปิดบัญชีอีเมล์บางบัญชีหรือลบทิ้งไปเลยก็ตามสะดวก หากต้องการปิดบัญชีให้ไปที่ Settings > Mail และเลือกบัญชีอีเมล์ จากนั้นเปลี่ยน Account ให้เป็น Off และหากต้องการลบบัญชีก็ไปที่ Settings > Mail และเลือกบัญชีอีเมล์ จากนั้นแตะที่ Delete Account

- ปิด Wi-Fi: ถ้าคุณไม่ค่อยได้ใช้งาน Wi-Fi คุณสามารถสั่งปิดเพื่อประหยัดพลังงานได้ เพียงไปที่ Settings > Wi-Fi และเปลี่ยน Wi-Fi ให้เป็น Off คุณมีทางเลือกหากต้องการใช้เปิดดูหน้าเว็บบน iPhone บ่อยๆ เพียงคุณเปลี่ยนไปใช้ EDGE แทนก็สามารถใช้งานได้นานขึ้นแล้ว

- ปิด Bluetooth: ถ้าคุณไม่ค่อยได้ใช้งานหูฟังบลูทูธ คุณสามารถสั่งปิดเพื่อประหยัดพลังงานได้ เพียงไปที่ Settings > General >Bluetooth จากนั้นเปลี่ยน Bluetooth ให้เป็น Off

- ปรับความสว่างหน้าจอ: การปรับหน้าจอให้มืดลงสักหน่อยก็ช่วยให้ใช้งาน iPhone ของคุณได้นานขึ้น เพียงไปที่ Settings > Brightness แล้วเลื่อนสไลเดอร์มาทางซ้ายมือเพื่อปรับลดความสว่างปกติของหน้าจอ และหากคุณเปิด Auto-Brightness ด้วย จะช่วยให้หน้าจอปรับความสามารถตามสภาพแวดล้อมได้อัตโนมัติ เพียงไปที่ Settings > Brightness และเลือก Auto-Brightness ให้เป็น On

-ปิด EQ: การเปิดใช้ EQ ในการฟังเพลงจะทำให้แบตเตอรี่ใน iPhone ของคุณหมดเร็วขึ้น หากต้องการปิด EQ เพียงไปที่ Settings > iPod > EQ และแตะที่ Off และถ้าคุณตั้งค่า EQ ให้เพลงของคุณใน iTunes คุณต้องตั้ง EQ ใน iPhone ให้เป็น "Flat" ก่อน คำสั่ง "Off" ถึงจะทำงาน เพราะว่า iPhone จะยังคงค่าที่คุณกำหนดมากจาก iTunes ไว้ เพียงไปที่ Settings > iPod > EQ แล้วแตะที่ Flat เท่านั้นเอง

ล็อค iPhone ของคุณ
คุณอาจจะยังไม่ทราบว่าคุณควรล็อค iPhone ของคุณเมื่อไม่ได้ใช้งาน ไม่ต้องห่วงเรื่องการรับสายโทรเข้าและการรับแมสเซส คุณยังทำได้อยู่แม้ล็อคเครื่องไว้ เพียงแต่หากคุณบังเอิญไปแตะที่หน้าจอก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อต้องการล็อด iPhone เพียงกดที่ปุ่ม Sleep/Wake เท่านั้นเอง

ใช้ iPhone เป็นประจำ
สิ่งสำคัญในการดูแลใช้งานแบตเตอรี่แบบลิเธียมก็คือต้องปล่อยให้อิเล็กตรอนภายในแบตเตอรี่ได้เคลื่อนไหวบ้าง ขอแนะนำให้คุณชาร์จและดิสชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่แบบเต็มไซเคิลอย่างน้อยเดือนละครั้ง

ข้อมูลจาก Istudio (www.studio.in.th)