"โมบายเอ็กซ์โป"ยอดจับจ่ายร่วง20%ปิดฉาก 4 วันมหกรรมมือถือ "โมบาย เอ็กซ์โป" ยอดขายลด เฉลี่ยทุกแบรนด์ 20% เงินสะพัดวูบ 300 ล้านบาท
นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป กล่าวว่า ภาพรวมงานครั้งนี้เป็นไปตามคาดคือ ยอดขายเฉลี่ยทุกแบรนด์ลดลงราว 20% ส่งผลให้เงินสะพัดภายในงานลดลงเหลือ 1,248 ล้านบาท จากงานช่วงปลายปีที่ผ่านมาที่ 1,560 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองโดยตรง เพราะการเดินทางโดยรถยนต์ไม่สะดวก
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความรู้สึกในการใช้เงิน ซึ่งก่อนหน้างานราว 2 เดือนบรรยากาศตลาดมือถือจะอึมครึม และยอดขายตามร้านค้าทั่วไปตกลงอย่างชัดเจน
"ยอดตกครั้งนี้จะใกล้เคียงกับงานช่วงกลางปีของปีที่แล้วที่เศรษฐกิจไม่ดี และไม่มีมือถือรุ่นใหม่ๆ เปิดตัว หรือไม่มีของว๊าวๆ ที่ต้องมาต่อแถวซื้อ แต่ครั้งนี้มีม็อบด้วยทำให้กลุ่มคนที่เคยมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวหายไปเยอะ โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นครอบครัวซึ่งจะเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ไม่ค่อยสะดวก แต่ก็พบว่าคนยังมาหาซื้อมือถือในงานค่อนข้างคึกคัก ทำให้เชื่อว่า ถ้าไม่มีม็อบ การซื้อขายดีแน่นอน เพราะอั้นการซื้อ"
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้ามือถือทั้งแบรนด์และตัวแทนจำหน่ายต่างกระหน่ำโปรโมชั่นในงานค่อนข้างดุเดือด เน้นลดราคามือถือรุ่นเก่า รวมทั้งการทำโปรโมชั่นผ่อน 0% ร่วมกับธนาคารและของแถมจำนวนมากเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดี
จากการเก็บข้อมูลยอดซื้อขายในงานเบื้องต้นพบว่า แบรนด์ที่ขายดีที่สุดอันดับหนึ่งคือ ซัมซุง อันดับที่ 2 คือ ไอโฟน และอันดับ 3 ไอ-โมบาย โดยเฉพาะรุ่นราคา 5,000-8,000 บาท
เขา เผยอีกว่า ผลจากการทำโปรโมชั่นของไอโฟนที่แม้จะไม่มีรุ่นใหม่ช่วงนี้ โดยเฉพาะ "ไอโฟน 5ซี" ที่ลดเหลือ 12,900 บาทแบบผูกสัญญากับผู้ให้บริการเป็นราคาที่กระตุ้นความสนใจจากผู้ซื้อได้จำนวนมาก และยังส่งผลให้ยอดขายมือถือแบ่งตามระบบปฏิบัติการไอโอเอสขยับขึ้นมามีส่วนแบ่งจากยอดขายรวมในงานราว 30% จากครั้งที่ผ่านมามีราว 15%
ส่วนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่เคยมีสัดส่วนยอดขาย 80% ลดเหลือ 60% ที่เหลือเป็นระบบปฏิบัติการวินโดว์สที่ส่วนใหญ่จะขายดีสำหรับตลาดแทบเล็ตมากกว่า
"ไอโฟนครั้งนี้ขายดีมาก ของจากโอเปอเรเตอร์ทุกค่ายหมดทุกวัน รวมๆ กันแล้วหลายพันเครื่องต่อวัน เพราะไอโฟน 5ซี ที่ลงมาเหลือหมื่นต้นๆ คนที่มาซื้อก็มีทั้งที่มีไอโอเอสอยู่แล้ว และใช้แอนดรอยด์ไม่เคยใช้ไอโฟนก็มาซื้อไว้อีกเครื่อง ส่วนไอโฟน 5เอสก็ขายดี เพราะแพ็คเกจของโอเปอเรเตอร์แต่ละค่าย เช่น ใช้อินเทอร์เน็ตฟรี 5 เดือนที่ค่อนข้างเรียกลูกค้าได้ดี"
จากงานยังพบว่า ตลาดมือถือเฮาส์แบรนด์เริ่มไม่มี"ที่อยู่" เพราะการทำสงครามราคาของอินเตอร์แบรนด์ ซึ่งในงานเหลือเฮาส์แบรนด์เพียงไอ-โมบาย และเชอร์รี่ โมบาย เท่านั้นที่มาออกบูธทำโปรโมชั่น แบรนด์อื่นๆ ที่เคยโดดเด่นในตลาดเฮาส์แบรนด์เริ่มเฟดตัวลงเหลือสัดส่วนเล็กๆ หรือผู้ค้าที่ทำแบรนด์ของตัวเอง
ส่วนยอดขายของอุปกรณ์เสริมมือถือยังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะเพาเวอร์แบงก์, เคส และฟิล์ม ซึ่งมียอดขายภายในงานรวมกันราว 5%
ขอบคุณที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ครับ